ไต้หวันในวันที่หวานอมชมพูเพราะ “ฤดูกาลแห่งซากุระ”
สารินี เจิน | Writer | 11 February 2019
สารินี เจิน | Writer | 11 February 2019
ช่วงนี้อากาศกำลังสบาย ฤดูหนาวของไต้หวันปีนี้แปลกจากปีก่อนๆ ปกติแล้วช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนซึ่งมักอยู่ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ขึ้นกับปฏิทินจันทรคติจะเป็นช่วงที่อากาศหนาวเหน็บที่สุดในรอบปี อุณหภูมิทั่วไปอยู่ที่ประมาณสิบต้น บ่อยครั้งที่ลดลงไปอยู่ในระดับเลขตัวเดียว แต่ปีนี้กลับทรงๆ ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ กำลังแต่งตัวได้สวย ใส่สเวตเตอร์เก๋ๆ หรือเสื้อโค้ตตัวบางเดินชิลได้สบายๆ อากาศแบบนี้ทำให้รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวโรแมนติกขึ้นอีก 10% ลมเย็นๆ ฟ้าใสๆ ทำให้อยากจูงมือคนที่เรารักออกไปสูดอากาศข้างนอก
ช่วงนี้เป็นฤดูเบ่งบานของดอกซากุระ หลายพื้นที่รอบเกาะไต้หวันค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพู ไล่มาจากตอนเหนือค่อยๆ เลื่อนไปตอนกลาง ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมยาวๆ ไปจนถึงต้นเดือนเมษายน
หลายคนอาจไม่เคยทราบว่าเกาะมันเทศเล็กๆ นี้ก็มีซากุระบานกับเขาเหมือนกัน แถมซากุระของที่นี่ยังมีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งดอกเล็กดอกใหญ่ สีชมพูอ่อนไปจนถึงสีบานเย็นเข้ม บางพื้นที่มีซากุระพันธุ์หายาก เช่น ซากุระสีเหลือง ซึ่งอยู่ให้ชมกันถึงช่วงปลายเดือนเมษายน ระหว่างสามเดือนนี้เป็นช่วงที่คนไต้หวันออกท่องเที่ยวกันมากที่สุดของปี เพราะนอกจากอากาศดี ดอกไม้สวยแล้วยังเป็นช่วงวันหยุดยาวที่สุดของปี (คล้ายช่วงสงกรานต์ของเมืองไทย) ว่าแล้วไปดูกันดีกว่าว่าแหล่งชมซากุระดังๆ ในไต้หวันอยู่ที่ไหนกันบ้าง
1. อุทยานแห่งชาติหยางหมิงชาน (Yangmingshan)
พิกัด: Yangmingshan National Park, Section 2, Hushan Road, Beitou District, Taipei City, 112
อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งเขตไทเปและนิวไทเป ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากจากใจกลางเมือง ที่สำคัญมีรถชัตเทิลบัสรับส่งชนิดจอดป้ายแล้วลงเดินชมได้เลย อุทยานแห่งนี้จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยหรือเดินทางมากับสมาชิกตัวน้อยและผู้ใหญ่ที่กำลังขาไม่ค่อยแข็งแรง นอกจากชมซากุระแล้วยังสามารถอิ่มเอมผ่อนคลายไปกับบ่อน้ำแร่ร้อนได้อีกด้วย
2. ฟาร์มอู่หลิง (Wuling Farm)
พิกัด: No. 3-1, Wuling Road, Heping District, Taichung City, 424
ทุกปีจะมีการจัดงานเทศกาลซากุระที่ฟาร์มแห่งนี้ โดยมีการแสดงแสงสีในสวนซากุระยามค่ำคืนอีกด้วย ปีนี้งานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 27 กุมภาพันธ์ ถ้าอยากชมความงามอย่างเต็มที่แนะนำให้ค้างแรมในโรงแรมในฟาร์มอย่างน้อยหนึ่งคืน
บรรยากาศช่วงเช้าก่อนที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะหลั่งไหลกันมานั้นสงบเงียบ ช่วงกลางคืนมีการแสดงดนตรีหรือนาฏกรรม ศิลปะที่น่าสนใจต่างๆ ลึกเข้าไปในฟาร์มเป็นทางเชื่อมเส้นทางเดินเขาน่าสนใจสายอื่นๆ หากเป็นขาลุยแนะนำให้ลองไปใช้บริการแคมป์กราวนด์ในส่วนที่ลึกเข้าไปอีกหน่อย ยามเช้าจะมีทะเลหมอกมาต้อนรับพร้อมกับแสงอรุณของวันใหม่เกือบทุกวัน
3. หมู่บ้านชนเผ่า 9 วัฒนธรรม (Formosan Aboriginal Culture Village)
พิกัด: No. 45, Yuchi Township, Nantou County, 555
สวนซากุระของที่นี่สวยงามถึงขนาดที่รัฐบาลญี่ปุ่นการันตีว่าเป็นซากุระที่ควรค่าแก่การแวะมาเยี่ยมชม ซากุระของที่นี่มีหลายสายพันธุ์ โดยแบ่งการบานเป็น 2 ช่วง ตอนต้นจะเป็นซากุระป่าสีชมพูเข้ม หลังจากนั้นอีกประมาณเกือบเดือนจึงเป็นคราวของซากุระสีชมพูอ่อน บริเวณพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งนี้ค่อนข้างกว้าง แต่ไม่ต้องกังวลเพราะมีรถบริการวิ่งวนรับส่งอยู่ภายใน หรือถ้าจะให้ฟินลองเปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนให้เข้าบรรยากาศแล้วไปนั่งรถลากให้เขาพาวิ่งวนชมสวนเพลินๆ ก็ได้ นอกจากความงดงามของซากุระแล้วที่นี่ยังมีการแสดงจากชนเผ่าต่างๆ ของไต้หวันที่น่าสนใจให้เราชมอีกด้วย
4. อุทยานชานหลินซี (Shanlinxi Forest Park)
พิกัด: No. 6, Xishan Road, Zhushan Township, Nantou County, 557
อุทยานแห่งนี้อยู่ในเขตหนานโถว ภาคกลางของไต้หวัน การเดินทางมาที่นี่ไม่ยาก แต่เส้นทางออกจะคดเคี้ยวสักหน่อยเพราะอยู่ท่ามกลางหุบเขา อากาศที่นี่เย็นสบายตลอดปี ขนาดช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิยังเย็นสบายเหมือนอยู่ในห้องแอร์ตลอดวัน ถ้าอยากสัมผัสความงามอย่างเต็มที่แนะนำให้พักค้างแรมกันสักหนึ่งคืน
บริเวณกว้างใหญ่ของอุทยานเต็มไปด้วยดอกไม้พรรณไม้สวยงาม ไม่ว่าแวะเวียนมาช่วงไหนก็ได้เห็นสีสันสวยๆ ตลอด ทั้งซากุระ ทิวลิป โบตั๋น ไฮเดรนเยีย และเมเปิล ช่วงเช้าๆ ที่นี่มักมีทะเลหมอกสวยๆ ให้เห็น เพราะอุทยานตั้งอยู่ที่ความสูงกว่า 1,650 เมตรจากระดับน้ำทะเล หากอยากได้ภาพสวยๆ แนะนำให้เดินทางมาถึงก่อนช่วงบ่ายสามบ่ายสี่ เพราะอากาศในหุบเขาหลังช่วงเวลานั้นมักมีสายหมอกบางๆ ปกคลุม ช่วงเช้าสายๆ จะเป็นนาทีทองที่ช่างภาพส่วนใหญ่นิยมมาเก็บภาพกัน
5. ฟาร์มชิงจิ้ง (Qingjing Farm)
พิกัด: No. 170, Renhe Road, Ren’ai Township, Nantou County, 546
ที่ตั้งของฟาร์มชิงจิ้งอยู่บนเขาสูง สมัยก่อนแถวนี้เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของทหารผ่านศึก ต่อมาได้รับการพัฒนาปรับปรุงจากคนในชุมชนจนกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจฮอตฮิตของทุกเพศทุกวัย คนไต้หวันให้สมญานามฟาร์มแห่งนี้ว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเกาะไต้หวัน
หลักๆ ตัวฟาร์มแบ่งเป็น 3 บริเวณ ได้แก่ บริเวณที่พัก (Qingjing Guest House), ฟาร์มน้องแกะ (Green Green Grassland) และสวนดอกไม้และจุดชมการแสดงแสงสียามค่ำ (Swiss Garden) จุดชมซากุระจะอยู่ที่สองบริเวณแรก แต่ดอกไม้และการจัดสวนในโซน Swiss Garden ก็น่ารักน่าแวะไม่แพ้กัน หากเป็นไปได้แนะนำให้ไปในช่วงวันธรรมดา เพราะการจราจรจะเบาบางและจำนวนผู้คนจะน้อยกว่า สนุกเพลิดเพลินกับการชมศิลปะแห่งธรรมชาติกันทุกคนนะคะ