คุณเคยได้หยุดนิ่งๆ แล้วนั่งฟังเสียงของหัวใจตัวเองครั้งสุดท้ายกันเมื่อไรคะ

สำหรับตัวฉันเองบอกเลยค่ะว่าจำแทบไม่ได้ เพราะดูเหมือนไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันมักชื่นชมนิยมกับความรวดเร็ว เร่งรัด และเร่งด่วนเป็นพิเศษ ขนาดเรื่องอาหารการกินเดี๋ยวนี้เปิดแอพพลิเคชัน จิ้มโทรศัพท์เดี๋ยวเดียวก็ได้กินเมนูอร่อยแล้ว

ทริปเที่ยวรอบล่าสุดเราจึงตัดสินใจไปหยุดนิ่งๆ อยู่ในเมืองที่เวลาเดินช้าอย่าง “ไถหนาน (Tainan)” บอกเลยค่ะว่าคนเมืองนี้เขาเป็นโปรในด้านการใช้ชีวิตละมุนละไมเนิบนาบ ทว่าทรงคุณค่าสไตล์สโลว์ไลฟ์อย่างแท้จริง จึงไม่แปลกใจที่คนไต้หวันจะยกให้ไถหนานเป็นเมืองที่รวบรวมชาวติสท์เข้าไว้ด้วยกัน

หากจะบรรยายเมืองนี้ให้เห็นภาพกันชัดเจน เข้าใจง่ายๆ “ไถหนาน” นั้นเปรียบได้กับเป็นเมืองเกียวโตของญี่ปุ่น ซึ่งเต็มไปด้วยของสวยๆ งามๆ โดยเฉพาะงานศิลปะ งานออกแบบ ที่สำคัญนาฬิกาของคนเมืองนี้ดูเหมือนจะเดินช้ากว่าปกติเพราะผู้คนไม่มีท่าทีเร่งรีบนัก

ฉันถูกใจกับวัฒนธรรมการเริ่มต้นวันด้วยการกินอาหารเช้าของคนเมืองนี้มาก เพราะปกติคนไต้หวันกินอาหารเช้ากันแบบไม่หนักหน่วง แค่แซนด์วิชง่ายๆ หรือแป้งทอดสอดไส้ไข่คู่กับน้ำเต้าหู้สักแก้วก็เพียงพอมีแรงทำงานกันไปจนถึงเที่ยงแล้ว แต่สำหรับคนเมืองไถหนานไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เขาให้ความสำคัญกับอาหารเช้าเท่าๆ กับมื้ออื่นๆ

สำหรับอาหารเช้าสไตล์ไถหนานนั้นรสชาติคล้ายอาหารเช้าของไทย เมนูคลาสสิคเด่นๆ ได้แก่ ซุปเนื้อวัวลวก ข้าวต้มปลานวลจันทร์ บ๊ะจ่าง และซุปแพะตุ๋น รสชาติของอาหารเหล่านี้ล้วนออกไปทางเค็ม ไม่ได้ออกแนวหวานแบบแซนด์วิช หรือแป้งทอด ซึ่งเป็นอาหารเช้าส่วนใหญ่ของไต้หวัน

ร้านอาหารเช้าแถวนี้เปิดกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง บางร้านเปิดกันตั้งแต่ตี 5 ขายกันถึงแค่เที่ยง หรืออย่างช้าก็บ่าย 2 โมง บางร้านเปิดถึงแค่ 9 โมงเช้า เรียกว่าตื่นสายนิดเป็นอดกินของอร่อย และหากอยากกินซุปเนื้อวัวลวกต้องจำให้ขึ้นใจว่า “อย่าไปวันอังคาร” เพราะคนไถหนานเขางดล้มวัวกันวันนี้ (เนื้อของที่นี่เป็นเนื้อสดใหม่ทุกวัน วันอังคารงดล้มวัวจึงไม่มีเนื้อวัวขาย)

ช่วงแรกที่เริ่มไปตระเวนลิ้มรสอาหารจานเด็ดของไถหนานนั้นเราอดแปลกใจไม่ได้ว่า รสไถหนานหวานกว่าเมืองอื่นๆ (อาหารและเครื่องดื่มของไต้หวันโดยรวมรสชาติหวานน้อยกว่าไทย) ภายหลังมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหารพื้นเมืองถึงทราบถึงที่มาที่ไปของรสหวานนี้ว่า สมัยก่อนน้ำตาลเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยไม่ได้หากินกันง่ายๆ แบบในปัจจุบัน ต้องเป็นบ้านที่มีฐานะดีเท่านั้นถึงจะมีน้ำตาลคู่ครัวเรือน ฉะนั้นเวลาจัดเลี้ยงถ้าบ้านไหนใส่น้ำตาลเยอะๆ แสดงว่ามีอันจะกิน เรียกว่ายิ่งหวานยิ่งรวย อาหารของไถหนานจึงไม่เหนียมน้ำตาลติดมาจนเป็นปัจจุบัน

ร้านรวงของ “ไถหนาน” นั้นหลายร้านเปิดมา ตั้งแต่สมัยคุณปู่ คุณย่า อายุอานามแต่ละร้าน 50-60 ปีขึ้นไป บางร้านอายุเป็นร้อยปี และที่สำคัญร้านดังในไทเปหลายๆ ร้านก็มีจุดเริ่มต้นมาจากเมืองไถหนานนี้แหละ ดังนั้นไถหนานจึงเป็นอีกหนึ่งเมืองที่อยากชวนให้ลองมาเที่ยวกัน อีกทั้งยังเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นทางรถยนต์หรือทางรถไฟ

FYI

พิกัดตลาดโบราณ Yongle: Section 3, Guohua St, West Central District, Tainan City, Taiwan 700