จากเป็นคนตื่นไม่เคยทันมื้อเช้าเมื่ออยู่เมืองไทย เมื่อถึงคราวต้องย้ายสำมะโนครัวชั่วคราวมาอยู่เมืองที่ว่ากันว่าน่าอยู่ที่สุดในโลกอย่างเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ก็เห็นทีจะต้องปรับตัวกันสักหน่อย ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ก็เมืองนี้นอกจากระบบขนส่งมวลชนที่แสนดีต่อการใช้ชีวิต และภาพกราฟฟิตีสวยๆ บนกำแพงทั่วเมืองแล้ว สิ่งที่ถือเป็นไฮไลต์อันดับหนึ่งซึ่งไม่ว่านักท่องเที่ยวหรือคนท้องถิ่นต่างก็ยกเวลาส่วนหนึ่งให้เห็นจะหนีไม่พ้นการได้จิบกาแฟหอมกรุ่น และนั่งละเลียดมื้อเช้าดีๆ ในคาเฟ่ที่ซุกซ่อนตัวอยู่ทั่วทุกหัวมุมถนนนั่นเอง

สำหรับคนที่ชื่นชอบด้านกาแฟเป็นพิเศษแล้วคงไม่พ้นต้องมีเมลเบิร์นเป็นหนึ่งใน Bucket List แน่นอน เพราะนอกจากที่นี่จะเป็นแหล่งรวมบาริสต้าฝีมือดีจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว เมลเบิร์นยังมีโรงคั่วกาแฟดีๆ มากมาย ตลอดจนมีงานคัปปิ้งกาแฟที่จัดขึ้นเป็นประจำตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้วัฒนธรรมการกินกาแฟของคนที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างเรื่องของรสชาติ ศิลปะ และการใช้ชีวิตประจำวัน



ผู้คนในเมลเบิร์นไม่ได้นิยมกิน Brekkie หรือเมนูอาหารเช้าแค่ในเวลาเช้าเท่านั้น คาเฟ่ที่นี่จึงมักขายอาหารแบบ All Day Breakfast กันแทบทุกร้าน โดยเมนูยอดนิยมที่เป็นมาตรฐานของร้านทั่วไปเห็นจะเป็น Egg on Toast หรือไข่รูปแบบต่างๆ ทั้ง Poached Egg, Fried Egg และ Scrambled Egg โปะมาบนขนมปังนั่นเอง โดยเราสามารถเลือกเพิ่ม Side Dish ต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ ผักโขม เห็ด อะโวคาโด เบคอน ไส้กรอก แฮชบราวน์ หรืออื่นๆ ตามแต่ทางร้านจะคิดค้นนำมาใส่ในเมนู

นอกจากนี้อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ว่าไปร้านไหนก็ต้องลองสั่งมาชิมทุกครั้งตามประสาแฟนพันธุ์แท้อะโวคาโดก็คือ Smashed Avocado หรืออะโวคาโดบด ปาดมาบนขนมปังหอมกรุ่น หรืออาจท็อปอัพเพิ่มด้วยวัตถุดิบต่างๆ ตามแต่ร้านจะรังสรรค์ เหมือนอย่างเมนูเด็ดจาก Proud Mary ร้านสุดฮิปอายุเกือบ 10 ปีจากย่าน Fitzroy จานนี้ที่เพิ่มความเป็นลูกผสมวัฒนธรรมด้วยกิมจิผักกาดขาวชิ้นหนา รสชาติเค็มๆ ฉ่ำๆ ตัดกับความกรอบของขนมปังและความมันของอะโวคาโดได้เป็นอย่างดี



พูดถึงอาหารจานขนมปังแล้วจะไม่พูดถึงสเปรดที่กินคู่กันก็ไม่ได้ นอกจากความหลากหลายของขนมปังทั้ง Sourdough, Multigrain, Fruit, Gluten-free ที่มีให้เลือกตามแต่ใจปรารถนาแล้ว แต่ละร้านยังมีเครื่องเคียงจำพวกเนย แยม เนยถั่ว ช็อกโกแลตให้เลือกสั่งไปมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ตามชอบ แต่มีอยู่หนึ่งอย่างที่ดูจะฮิตอย่างน่าแปลกใจ ที่บอกว่าน่าแปลกใจก็เพราะเมื่อลองชิมดูแล้วจะว่าอร่อยก็ไม่ใช่ ไม่อร่อยก็ไม่เชิง เพราะให้รสชาติเค็มหวานปะแล่มๆ คล้ายซอสฮอยซินหรือซอสปรุงอาหารคาวของไทย มีลักษณะดำๆ หนืดๆ ทำมาจากผักและเครื่องเทศนานาชนิด หมักเข้ากับยีสต์จนได้สเปรดที่อุดมไปด้วยวิตามินบีและสารอาหารต่างๆ เอาเป็นว่าถ้าใครมาถึงออสเตรเลียแล้วอย่าลืมมาลองพิสูจน์รสชาติเจ้า “Vegemite” ด้วยตัวเองกันนะ

นอกจากอาหารเช้าแบบนั่งกินในร้านแล้ว สำหรับเหล่ามนุษย์ออฟฟิศที่ชีวิตต้องไว การเลือกซื้อแซนด์วิชและกาแฟแบบ Take Away ในชั่วโมงเร่งด่วนเป็นอีกทางออกหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไม่ต้องพลาดมื้อเช้าอันแสนสำคัญ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นคาเฟ่จำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟและใจกลางย่านออฟฟิศ เปิดส่วนหนึ่งของร้านเป็นบาร์แซนด์วิชให้ลูกค้าเดินเข้ามาสั่งแซนด์วิชแบบที่ต้องการได้โดยตรง



จะว่าไปแล้วเมื่อมองดูดีๆ วัฒนธรรมการกินอาหารเช้าของคนออสซีในบางแง่มุมก็มีความคล้ายคลึงกับไทยไม่น้อยเลย ขณะที่เราจัดประเภทโจ๊กและน้ำเต้าหู้เป็นอาหารเช้า แต่เราก็ยังสามารถหาสองสิ่งนี้กินได้ตลอดวัน ไม่ต่างอะไรไปจาก All Day Breakfast ของที่นี่ หรือนั่นอาจเป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่า ไม่ว่าจะตื่นสายแค่ไหน มื้อเช้าก็ยังคงเป็นมื้อสำคัญที่เราไม่ควรพลาดในทุกๆ วันก็เป็นได้ :)


Melbourne's Favourite
Patricia
Location: Little Bourke St & Little William St, Melbourne

Open Hour: Monday-Friday, 7am-4pm 

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมร้านกาแฟขนาดเล็กที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในย่านออฟฟิศใจกลาง CBD แห่งนี้ถึงได้พลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา เพราะนอกจากรสชาติกาแฟที่คนชอบกาแฟแนว Strong ต้องถูกใจแล้ว บาริสตาและสตาฟภายในร้านยังแสนจะน่ารัก เป็นกันเองกับลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร ด้วยความที่พื้นที่ภายในร้านมีขนาดค่อนข้างเล็ก คอนเซปต์ของ Patricia จึงเหมาะกับคนทำงานที่แวะมาซื้อกาแฟใส่แก้ว Take Away แล้วออกมายืนชิตแชตเล็กน้อยกับเพื่อนร่วมงานที่หน้าร้าน หรือยืนเล็มครัวซ็องขณะตอบอีเมลก่อนเวลาเข้างานที่หน้าบาร์ ถ้าใครอยากเห็นบรรยากาศอันแสนคึกคักของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศในเมลเบิร์น อย่าลืมแวะมาที่ Patricia ในช่วงเวลาก่อนชั่วโมงทำงานนะ