×

4 ตลาด Flea Market ระดับโลกที่สาวกวินเทจควรไปสักการะสักครั้ง

มณฑิณี เชียงสงค์ | Editor-in-chief | 25 May 2018



ระดับอะดรีนาลีนที่พุ่งเมื่อเห็นซิลลูเอตของแจ็กเก็ตกำมะหยี่สีดำเข้ารูปประดับกระดุมสลักลายสีทองของ YSL จากยุค 1980 ในกองเสื้อผ้านับร้อย และการคว้าชัยได้เป็นเจ้าของแจ็กเก็ตตัวนั้นกลับบ้าน (ไซซ์จะพอดีหรือไม่นั่นไม่ใช่ประเด็น) นี่คือความสุขของการช็อปปิงของวินเทจที่ใครไม่อินจริงก็อาจไม่เข้าใจ กับการรื้อๆ ค้นๆ และลุ้นว่าเราจะเจอชิ้นเด็ดอะไรบ้าง จะบอกว่าเหมือนโจรสลัดออกล่าสมบัติก็ไม่ผิดนัก เพื่อนเดินทางมี 4 จุดหมายตลาด Flea Market เด็ดๆ จากทั่วโลกมาแนะนำ รวมถึงตัวช่วยที่จะอัพเลเวลการช็อปวินเทจของคุณให้แกร่งกล้ามากขึ้น การันตีโดยไอคอนสไตล์วินเทจอย่างคุณแอ๊ม-มาสิริ ตามสกุล เจ้าของร้าน Again & Again 

1. Grande Braderie de Lille: เมืองลีล, ฝรั่งเศส
นี่คือตลาดวินเทจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป จัดขึ้นปีละครั้งที่เมืองลีลทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ในช่วงวีกเอนด์แรกของเดือนกันยายน ใหญ่ขนาดทั้งเมืองปิดถนนให้คนจากทั่วยุโรปมาออกร้านนับหมื่นเจ้าแน่ะ คิดดู แถมงานนี้ยังมีประวัติเก่าแก่ย้อนไปตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 นู่น การช็อปปิงที่นี่แบ่งเป็นโซนชัดเจน ทั้งของมือสองแบบไฮเอนด์หน่อย ของมือสองทั่วๆ ไป เฟอร์นิเจอร์แอนทีก หรือแบรนด์ร่วมสมัย เรียกว่าสนใจแบบไหนก็มุ่งไปโซนนั้น การเดินทางจากปารีสก็ไม่ยาก นั่งรถไฟมาชั่วโมงนิดๆ ก็ถึง แถมยังมีบัตรโดยสารพิเศษเฉพาะงานนี้ให้คุณเดินทางในเมืองลีลได้อย่างประหยัดและสะดวกสบาย นอกจากช็อปมาราธอนแล้วยังห้ามพลาดอาหารจานเด็ดของงานอย่างซุปหอยกับมันฝรั่งทอด แกล้มกับเบียร์โลคัล คราวนี้ชิลและช็อปกันได้ยาวๆ

When: สำหรับปี 2018 นี้งานเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 กันยายน (6.00 น.) ถึงวันจันทร์ที่ 3 กันยายน (4.00 น.)

2. Munich Giant Flea Market: เมืองมิวนิก, เยอรมนี
ณ Theresienwiese ลานกว้างกลางเมืองมิวนิกซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน Oktoberfest อันโด่งดัง นี่คือลานเดียวกับงาน Munich Giant Flea Market ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี จัดขึ้นทุกวันเสาร์แรกของเทศกาล Spring Festival ในเดือนเมษายน มีปีละครั้งเช่นกัน แม้จะไม่ใหญ่เท่ากับ Grande Braderie de Lille แต่ของก็ละลานตาให้เราไม่ได้กลับไปมือเปล่าแน่นอน นอกจากนี้ Spring Festival ยังกินเวลาหลายวันและมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ร่วมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขบวนพาเหรด คอนเสิร์ต การจุดพลุและดอกไม้ไฟ หรือแม้แต่เต็นท์เบียร์ฟรีในวันแรกของเทศกาล เรียกว่าถึงจะได้ช็อปไม่กี่ชั่วโมงแต่อยู่ยาวได้เที่ยวคุ้ม และมาถึงถิ่นบาวาเรียทั้งทีงานขาหมูกับเบียร์ต้องมา 

When: ทุกเสาร์แรกของเทศกาล Spring Festival ซึ่งปีนี้จัดกันไปแล้วเมื่อ 22 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนตารางของปีหน้ายังไม่ออก เข้าไปเช็กกันได้ที่
www.fruehlingsfest-muenchen.bayern/spring-fest-munich/

3. Rose Bowl Flea Market: เมืองแอลเอ, สหรัฐอเมริกา
ตลาดโรสโบวล์คือแหล่งวินเทจที่ประจำของคอลเล็กเตอร์จากทั่วโลก โดยเฉพาะพวกกางเกงยีนส์ แจ็กเก็ตทหาร หรืออเมริกันสไตล์ทั้งหลาย นอกจากเสื้อผ้าแล้วที่นี่มีของทุกชนิดทุกประเภททั้งใหม่และเก่า ตั้งแต่ชุดนักโทษไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ จัดที่ลาน ณ สนามสเตเดียม Rose Bowl ในเมืองแพซาดีนาทางตอนเหนือของแอลเอ ตลาดนี้มีทุกวันอาทิตย์ที่สองของทุกเดือน และต้องซื้อตั๋วเข้า เรื่องตั๋วนี่ต้องตั้งใจฟังดีๆ เพราะมีหลายราคา ซึ่งแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา เวลาปกติของตลาดคือ 9.00-16.00 น. ตั๋วราคา $9 แต่ถ้าอยากได้ของเด็ดจริงๆ เขามีตั๋วพิเศษที่ยิ่งเช้าก็ยิ่งแพง เพราะคุณจะได้เลือกก่อนใคร (5.00-7.00 น. ราคา $20 และ 7.00-9.00 น. ราคา $15) ซึ่งหลายเสียงยืนยันแล้วว่าคุ้มกับการตื่นเช้ามาโรสโบวล์ เดี๋ยวนี้มีตั๋วออนไลน์ซึ่งอาจแพงกว่าเล็กน้อย แต่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว ตลาดที่นี่มีแผนที่แยกสี แยกประเภท แยกราคาชัดเจน รับรองว่าไม่งง แค่ต้องตั้งสติดีๆ เท่านั้นเอง 

When: ทุกวันอาทิตย์ที่สองของเดือน 9.00-16.00 น. ดูรายละเอียดที่
www.rgcshows.com/RoseBowl.aspx

4. Alameda Point Antiques Faire: เมืองซานฟราสซิสโก, สหรัฐอเมริกา
ตลาดนี้พิเศษกว่าที่อื่นสักหน่อยตรงที่มีแต่ของวินเทจจริงๆ เพราะมีกฎสำหรับผู้ขายว่าของที่เอามาต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ไม่ใช่เสื้อยืดที่ใส่เมื่อเดือนที่แล้วและเอามาเลหลังแน่นอน งานนี้จัดกันทุกวันอาทิตย์แรกของทุกเดือน ที่ลานเครื่องบินกองทัพเรือเก่า Alameda Naval Air Station และมีวิวสวยๆ ของซานฟรานซิสโกเป็นฉากหลัง ถึงตลาดแอลาเมดาจะไม่ได้แบ่งเป็นโซนชัดเจน แต่เจ้าถิ่นกระซิบว่าให้เริ่มจากแถวหลังซึ่งราคาไม่แพงเท่าร้านด้านหน้าขึ้นมาก่อน ส่วนเรื่องตั๋วก็คล้ายๆ กับโรสโบวล์คือแบ่งตามเวลา แน่นอนว่ายิ่งเช้าก็ยิ่งแพง ตั๋วปกติ 9.00-15.00 อยู่ที่ $5 ส่วน Early Bird 6.00-7.30 น. ราคา $15 และ 7.30-9.00 น. ราคา $10 ของเด็ดอีกอย่างของตลาดนี้คือบรรดาฟู้ดทรักที่จัดว่าเด็ดไม่แพ้ของช็อปปิงเลย ใครที่ไม่ได้อินกับวินเทจมากมากินก็คุ้มแล้วนะ

When: ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน 9.00-15.00 น. ดูรายละเอียดที่
www.alamedapointantiquesfaire.com/index.php 

Tips & Tricks 
เตรียมตัวก่อนช็อปเพื่อประสิทธิภาพในการช็อปตลาดวินเทจ (ทำงานยังไม่จริงจังวางแผนเท่านี้เลยนะ)

1. ไปแต่เช้า เพราะของดีมักหมดเร็ว หลายที่มีตั๋วพิเศษสำหรับเข้าก่อนเปิดให้คนทั่วไปซึ่งจะแพงกว่าตั๋วทั่วไป แต่ก็ไม่ต้องเบียดกับคนเยอะๆ และมีตัวเลือกมากมาย และถ้าอยากได้ดีลแบบลดสะบั้นหั่นแหลก ช่วงก่อนตลาดปิดคือนาทีทองของคุณ เพราะบรรดาคนขายมักลดราคาแบบสุดๆ เพราะขี้เกียจขนกลับ
2. ศึกษาแผนที่ก่อนไป จอดรถตรงไหน ออกจากรถไฟสถานีไหน แบ่งโซนขายยังไง ห้องน้ำ หรือจุดขายอาหาร ดูไว้ให้พร้อมจะได้ไม่เสียเวลา
3. เตรียมเงินสด ตลาดแบบนี้มักไม่ค่อยรับเครดิตการ์ด แลกแบงก์หรือเหรียญไว้ให้พร้อม และบางที่ก็ไม่มี ATM
4. เตรียมเสบียงติดตัว อย่างน้ำดื่มหรือสแน็กง่ายๆ ไว้รองท้องถ้าไม่อยากเสียเวลาช็อป และจะได้ไม่โมโหหิว
5. รองเท้าใส่สบาย ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การช็อปของคุณเป็นไปด้วยความราบรื่น
6. ผูกมิตรกับคนขาย พูดคุยทักทายและส่งยิ้มให้ เพราะพวกเขามักจำลูกค้าได้ และส่วนลดพิเศษจะเป็นของลูกค้าคนโปรดเสมอ
7. อย่าลืมต่อราคา แต่อย่าต่อเยอะแบบครึ่งราคาถ้าไม่ใช่ตลาดที่อินเดียหรือเมืองจีน 
8. รักจริงก็ซื้อเลย ถ้าเจอชิ้นที่ชอบจริงๆ อย่าเดินจากไปและหวังว่าร้านอื่นจะมีเหมือนกัน หลายครั้งที่เดินกลับมาเพื่อจะพบกับความว่างเปล่า และความเจ็บที่จำไปอีกนาน 


ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจากคุณมาสิริ ตามสกุล