“สิงคโปร์” ฉบับคนสร้างภาพ เที่ยวมุมไหน อย่างไร ให้ได้รูปสวยกลับบ้าน
ชัชวาล จักษุวงค์ | Writer | 01 March 2019
ชัชวาล จักษุวงค์ | Writer | 01 March 2019
เสน่ห์ของสิงคโปร์คือเป็นประเทศที่สะอาดสะอ้าน ผู้คนมีระเบียบวินัย การคมนาคมสะดวกรวดเร็ว ที่สำคัญคืออยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา เพียงสองชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว สิงคโปร์จึงเป็นเดสติเนชั่นยอดนิยมที่หลายคนเลือกสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากแหล่งชอปปิงดี ร้านกาแฟเด่นแล้ว สิงคโปร์ยังมีจุดถ่ายรูปสวยพีกที่เหล่าช่างภาพและอินสตาแกรมเมอร์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง บอกเลยว่างานนี้ไม่มีกั๊กเรื่องพิกัดเช็กพอยต์ พร้อมรับประกันได้ว่าจะต้องได้รูปสวยกลับจากสิงคโปร์ทุกคน
Gardens by the Bay
สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ที่ใครๆ ก็ต้องไปชมเมื่อมาเยือนสิงคโปร์ ไฮไลต์ของที่นี่คือ Flower Dome ที่รวมเอาพันธุ์ไม้จากทั่วโลกมาปลูกไว้ในที่เดียว และ Cloud Forest สวนจำลองบรรยากาศป่าหมอกชื้นในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแถบอเมริกาใต้ (ความสูง 1,000-3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล) จุดเด่นของที่นี่คือน้ำตกขนาดใหญ่ที่สูงถึง 35 เมตร อีกอันที่ห้ามพลาดก็คือ Supertree Grove สถาปัตยกรรมรูปต้นไม้ยักษ์ที่สวยงามมากโดยเฉพาะตอนกลางคืน
อย่างไรก็ตามถ้าเก็บภาพบรรยากาศในสวนครบแล้วเรามีพิกัดถ่ายรูปอีกจุดมาแนะนำ ซึ่งซ่อนความแกรนด์ในแกรนด์ไว้ นั่นก็คือร้านอาหารและบาร์ Spago ตั้งอยู่บนโรงแรม Marina Bay Sands (MBS) แนะนำให้เลือกที่นั่งเอาต์ดอร์ของร้าน ที่จะทำให้คุณได้เห็น Gardens by the Bay ในมุมสูง เก็บครบทุกรายละเอียดของสวนเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงพลบค่ำนั้นคือช่วงเวลาแห่งการลั่นชัตเตอร์
เราแนะนำให้รีบมาก่อนพระอาทิตย์ตกดินเพราะจะได้เก็บภาพช่วงที่ท้องฟ้ามีแสงสีทองเป็นแบ็กกราวนด์ และอย่ารีบกลับ เพราะที่ Supertree Grove เขามีการแสดงแสงสีที่ชมจากมุมบนนี้ได้เพลินมาก (การแสดงมี 2 รอบต่อวัน คือ เวลา 19.45 น. และ 20.45 น.)
Marina Bay
Marina Bay ถือเป็นจุดท่องเที่ยวหนึ่งที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับสิงคโปร์ ในย่านนี้มีพิกัดให้ถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด จุดแรกคือรูปปั้น Merlion ที่แน่นอนว่าเอาไว้เช็กอินอวดเพื่อนว่าเราได้มาเยือนสิงคโปร์แล้ว จุดที่สองเพียงเดินข้ามสะพานมายังฝั่ง Esplanade Theatre ก็ถึงแล้ว
จุดนี้เราแนะนำให้มาช่วงพลบค่ำ เพราะจะได้ภาพบรรยากาศสวยๆ ของ Marina Bay โดยมี Marina Bay Sands และอาคารออฟฟิศในย่านธุรกิจเป็นแบ็กกราวนด์ (อย่าลืมพกเลนส์มุมกว้างติดกระเป๋ามาด้วย)
สำหรับใครที่อยากได้ภาพของ Marina Bay Sands แบบเด่นๆ สะดุดทุกสายตา แนะนำจุดถ่ายรูปบนรูฟท็อปบาร์บนโรงแรม The Fullerton Bay ที่ชื่อ Lantern ไฮไลต์ของวิวจากตรงนี้คือการแสดงแสงสีเสียงและระบำสายน้ำที่มี 2 รอบต่อวัน คือ สองทุ่ม และสามทุ่ม (วันศุกร์และเสาร์มีรอบสี่ทุ่มเพิ่มเข้ามาอีกรอบ)
ส่วนใครอยากได้ภาพมุมสูงแบบอลังการงานสร้างให้ลองขึ้นไปที่ LAVO สกายบาร์ (และร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน) บนชั้น 57 ของ Marina Bay Sands มุมนี้คุณจะได้เห็นวิวแบบเออร์บันของสิงคโปร์ ซึ่งส่วนตัวแล้วเราชอบวิวยามค่ำคืนมากกว่าตอนกลางวัน อีกจุดที่วิวอลังการไม่แพ้กันก็คือร้าน LeVel 33 ที่อยู่บนตึก MBFC ซึ่งที่นี่ได้รับยกย่องว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ดีที่สุดของสิงคโปร์เลยทีเดียว
TreeTop Walk
สำหรับคนรักธรรมชาติที่นี่ถือว่าเป็น Hidden Gem ของสิงคโปร์ก็ว่าได้ TreeTop Walk เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างเก็บน้ำ MacRitchie ซึ่งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าพอสมควร ดังนั้นรถเมล์จึงเป็นที่พึ่งที่ดีสำหรับใครที่อยากมาเดินป่าแห่งนี้ ระยะทางของการเดินทั้งหมดราว 7 กิโลเมตร โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
นอกจากการดูนก ส่องสัตว์ และชมพันธุ์ไม้แล้ว ไฮไลต์ของที่นี่ก็คือการเดินข้ามสะพานความสูง 25 เมตรที่จะทำให้ได้เห็นวิวมุมสูงของป่าและอ่างเก็บน้ำ สะพานแห่งนี้มีความยาว 250 เมตร แต่แคบ เพราะฉะนั้นจึงเดินได้แบบวันเวย์เท่านั้น TreeTop Walk เปิดวันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 9.00-17.00 น. ถ้าไม่อยากเบียดเสียดผู้คนเราแนะนำให้มาช่วงเช้าของวันธรรมดา และอย่าลืมเตรียมน้ำดื่ม (และขนม) ให้พร้อม (การเดินทางให้ใช้บริการรถบัสสาย 132, 163, 165, 166, 167, 855, 980)
Henderson Wave
สะพานไม้รูปทรงแปลกตา Henderson Wave ถูกออกแบบมาให้ดูเหมือนรูปทรงของเกลียวคลื่น ด้วยขนาดความยาว 274 เมตรและความสูง 36 เมตรทำให้ได้รับตำแหน่งสะพานคนข้าม (Pedestrian Bridge) ที่สูงที่สุดในสิงคโปร์มาครอง
ถามว่าอะไรคือความน่าสนใจ และทำไมเราต้องมา? ก็เพราะความน่าสนใจของตัวสะพานไม้ที่ออกแบบมาให้คุณสามารถเข้ามานั่งผ่อนคลายพร้อมกับชมความเขียวขจีของแมกไม้และวิวเมืองในมุมมองแบบ Bird’s-eye View ที่จะเห็นการอยู่ร่วมกันอย่างแนบเนียนระหว่างเมืองสุดโมเดิร์นและต้นไม้สีเขียวครึ้มที่เป็นอีกซิกเนเจอร์ของสิงคโปร์
Universal Studios
ข้ามมาที่ฝั่ง Sentosa กันบ้าง แน่นอนว่า Universal Studios เป็นธีมพาร์กที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกวัย ที่นี่มีสวนสนุกให้เลือกเล่นเลือกชมถึง 7 แห่ง พร้อมเครื่องเล่นเกือบ 30 อย่าง ครบทุกความสนุกตั้งแต่ปราสาทสวยๆ ไปจนถึงธีม Sci-Fi ล้ำอนาคต
สิ่งที่น่าจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพถ่ายของคุณก็คือการถ่ายทอดบรรยากาศแห่งความสุขออกมาให้ได้ เพราะฉะนั้นที่นี่คุณอาจต้องมือไวพอสมควร เพื่อที่จะลั่นชัตเตอร์ให้ทันจังหวะที่ผู้คนกำลังสนุกสนาน ฟังก์ชันถ่ายภาพต่อเนื่องอาจเป็นตัวช่วยที่ดี
อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือเรื่องสีสันในช่วงกลางคืน (ราวสองทุ่มครึ่ง) เพราะที่นี่มีการแสดงขบวนพาเหรดของตัวละครจากหนังฮอลลีวูดที่มาพร้อมกับแสงสีที่สดใส เคล็ดลับที่เราอยากแนะนำในการถ่ายภาพก็คือใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง เพื่อช่วยให้ถ่ายภาพได้โดยภาพไม่สั่นไหว ร่วมกับการใช้ค่า ISO ที่ค่อนข้างสูง เช่น 2500, 3200 แต่อย่าสูงมาก เพราะ Noise อาจเพิ่มตามขึ้นมาได้