ศรัณยู นกแก้ว | Writer | 10 March 2019
เมื่อรู้ว่าจะได้มาเช็กอินพักผ่อนในโรงแรมใจกลางป่าตอง ชายหาดที่มีความแน่นของนักท่องเที่ยวเบอร์ต้นในภูเก็ต สิ่งแรกที่คิดคือนี่ต้องเป็นโรงแรมประเภท City Hotel ที่มีความกะทัดรัดของห้องพัก และประหยัดงานดีไซน์ เน้นฟังก์ชันเพื่อนอนแล้วออกไปท่องเที่ยวทะเลภูเก็ตระหว่างวันเป็นแน่ ทว่าทันทีที่ลงจากรถผ่านเข้าสู่ตัวล็อบบี้ “โฮเต็ล อินดิโก้ ภูเก็ต ป่าตอง” ก็ทำให้คำจำกัดความของ City Hotel ที่วาดไว้ทั้งหมดต้องเปลี่ยนไป เพราะทั้งเรือ มวย คาบาเรต์ รถโพถ้อง ประมงพื้นถิ่น ทุกสิ่งที่เป็น “วิถีภูเก็ต” แบบอินไซด์ล้วนถูกจัดวางเต็มพื้นที่ของโฮเต็ล อินดิโก้ ภูเก็ต ป่าตอง ด้วยกันทั้งสิ้น จนทำให้อยากลดทอนโปรแกรมเที่ยวภูเก็ตแล้วเปลี่ยนมาเป็นการสำรวจความเก๋ของโรงแรมแทน
Ambience
“ประสบการณ์แบบท้องถิ่น วิถีชีวิตของชาวภูเก็ตเป็นสิ่งที่ โฮเต็ล อินดิโก้ ภูเก็ต ป่าตอง อยากจะนำเสนอให้กับผู้ที่เข้าพัก”
คุณไซม่อน ดูว์เธ็ต (Simon Douthett) ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมกล่าวเชิญชวนให้เราเข้ามาทำความรู้จักกับโรงแรมแห่งนี้ ที่แม้ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดและไม่ไกลจากความครึกครื้นของถนนบางลา ทว่าด้านในกลับสามารถใส่ความผ่อนคลายไว้ได้เต็มที่ตั้งแต่ล็อบบี้ไล่ขึ้นไปถึงห้องพัก
ในส่วนล็อบบี้นั้นสะดุดตาด้วยซิกเนเจอร์ของภูเก็ตสมกับคอนเซปต์ Neighborhood Gallery ที่มีครบทั้งกระเบื้องลายเครือเถาดอกไม้สไตล์ชิโนโปรตุกีส เก้าอี้ไม้ที่ถอดลายมาจากรถประจำทางพื้นถิ่นที่เรียกว่า “โพถ้อง” ด้านเพดานนำลอบดักปลาของชาวประมงท้องถิ่นมาดัดแปลงให้มีความโมเดิร์น โดดเด่นด้วยสีทองแดงเป็นรูปคลื่นดูพลิ้วไหว
บางมุมแต้มด้วยประกายอันเจิดจรัสของเวทีคาบาเรต์ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ มวยไทย ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงโชว์ยอดนิยมในภูเก็ต แต่ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนเลือกเดินทางมาภูเก็ตเพราะคำว่ามวยไทยโดยเฉพาะ และถ้าสังเกตให้ดี ทุกชั้นของโรงแรมจะซ่อนกระบวนท่ามวยไทยเป็นลายกราฟฟิตีบนผนังชนิดไม่ซ้ำกระบวนท่ากันเลย
Hotel Insider
อย่างที่บอกว่าโฮเต็ล อินดิโก้ ภูเก็ต ป่าตอง ทำให้คำว่า City Hotel ที่เราเคยเข้าใจเปลี่ยนไป ซึ่งเหตุผลนั้นไม่เพียงเพราะการให้พื้นที่ห้องที่กว้างขวางไม่ต่างจากโรงแรมประเภทรีสอร์ต แต่ในทุกมุมของโฮเต็ล อินดิโก้ ภูเก็ต ป่าตอง ยังมีการนำศิลปะ วิถีชีวิตเยี่ยงชาวภูเก็ตมาตกแต่ง สามารถเลือกพักได้ระหว่างห้องวิวเมืองป่าตอง และห้องสไตล์ Pool Access ที่เปิดประตูห้องแล้วกระโดดลงไปในสระว่ายน้ำส่วนตัวได้ทันที
และอย่างที่บอกว่าโรงแรมพยายามเน้นประสบการณ์เยี่ยงชาวภูเก็ต เราจึงได้เห็นลวดลายของเรือแล่นเข้ามาอยู่ในห้องนอนด้วยเช่นกัน แต่ก็มีการเบรกอารมณ์ฝั่งวิถีถิ่นดั้งเดิมไว้บ้างด้วยแสงสีของเวทีคาบาเรต์ที่ร้อนแรงอยู่บนพรม ผนังกระจกใส และไฟนีออนสีชมพู-ฟ้าที่ดัดเป็นคำภาษาอังกฤษสนุกๆ ติดไว้บนผนังห้องน้ำ พร้อมที่จะเปลี่ยนให้ห้องน้ำธรรมดากลายเป็นมุมถ่ายรูปสุดฮิตในอินสตาแกรมไปเสียอย่างนั้น และพิเศษเฉพาะห้องน้ำของห้องประเภท Suite นั้นมีอ่างไซซ์ใหญ่ให้ได้นอนแช่แบบเซ็กซี่เบาๆ
อีกสิ่งที่น้อยแต่มากที่ทำให้เราชอบมากคือบาร์เล็กๆ นอกชานระเบียงของทุกห้องที่ถูกจัดไว้เพื่อการนั่งชิลชมเมืองโดยเฉพาะ และเพื่อเป็นการเพิ่มบรรยากาศความชิลนั้น แนะนำให้นำชุดค็อกเทล Ready to Drink ที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ออกมาเชกเป็นซิกเนเจอร์ค็อกเทลจิบคลอไประหว่างชมเมือง ซึ่งความพิเศษก็คือทางโรงแรมนำรัมท้องถิ่นจากโรงกลั่นในภูเก็ต Chalong Bay Rum มาให้เราได้ลิ้มลองกันด้วย
นอกจากดีไซน์ห้องพักแล้ว ที่นี่ยังมีหมัดเด็ดอยู่ที่อาหารจากเชฟเจ้าของรอยสักคำว่า “หลงใหลในอาหาร” นั่นก็คือ “Morten Bojstrup Nielsen” อดีตเชฟอาหารไทยในโรงแรมแบรนด์ดัง แต่ครั้งนี้เชฟ Morten เปลี่ยนจากรสไทยมาเป็นความสนุกของพ่อค้าเนื้อ กับห้องอาหาร Butcher’s Garden ที่มีห้อง Dry Aging เป็นของตัวเอง ทำให้สามารถควบคุมรสชาติและคุณภาพความฉ่ำของเนื้อแต่ละชนิดไว้ได้ พร้อมให้ลูกค้าเข้ามาซื้อเนื้อชิ้นส่วนต่างๆ และให้เชฟนำไปปรุงอาหารได้ตามชอบ ซึ่งเมื่อเนื้อดี สเต๊กของที่นี่จึงเป็นเมนูที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับวัตถุดิบจากทะเลที่เลือกสนับสนุนประมงท้องถิ่น ซึ่งสดใหม่ทุกวัน
และอีกสิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับเหล่าอินสตาแกรมเมอร์คือการใส่เสื้อคลุมในห้องนอนลงมากินอาหารเช้า ที่พิเศษก็ด้วยเสื้อคลุมในห้องนั้นออกแบบให้เป็นเสื้อคลุมนักมวยแต่ดีไซน์เปรี้ยวจี๊ดเบาๆ มีมุมแดงกับน้ำเงินให้ได้เลือก ที่สำคัญอาหารเช้าประเภทอาหารไทยและขนมปังของที่นี่อร่อยจริงจัง
Around
การตกแต่งโรงแรมที่รวมเอาทุกซิกเนเจอร์ของวิถีท้องถิ่นมายั่วยวนอยู่ในทุกมุมย่อมทำให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติอยากตามรอยลวดลายเหล่านั้นออกไปสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่น โดยในส่วนของมวยนั้นนอกจากมีการแข่งขันแมตช์ใหญ่ๆ มาให้ชมอยู่เนืองๆ ที่ภูเก็ตแล้ว ชั้นบนของโรงแรมยังเปิดเป็นเวทีมวยย่อมๆ ให้ผู้ที่เข้าพักได้ออกกำลังกายด้วยแม่ไม้มวยไทย
ด้านวิถีประมงนั้นเราแนะนำให้มุ่งตรงไปยังหาดราไวย์ ซึ่งเป็นถิ่นของชาวมอแกนหรือยิปซีทะเลผู้เชี่ยวชาญศาสตร์การล่องเรือและหาปลา และแม้ปัจจุบันที่นี่จะเปลี่ยนจากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ เป็นย่านรวมร้านอาหารทะเล แต่หากเดินลึกไปจนสุดหาดก็ยังมีวิถีประมงพื้นถิ่นแบบฉบับชาวมอแกนให้ได้เรียนรู้อยู่บ้าง แนะนำให้มาตอนเช้าเพื่อที่จะได้เห็นเรือประมงเข้าฝั่งพร้อมวัตถุดิบจากทะเลเต็มลำเรือ
อีกข้อดีของโฮเต็ล อินดิโก้ ภูเก็ต ป่าตอง คือการพยายามเลือกใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นและในเมืองไทยมาปรุงอาหาร โดยเฉพาะรัมและเบียร์ของภูเก็ตนั้นมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Chalong Bay Rum ซึ่งเปิดโรงงานให้นักท่องเที่ยวเข้าชมการผลิตรัมในช่วงบ่ายของทุกวัน แต่ถ้าใครพลาดตารางการเข้าชมโรงงานที่นี่ยังมีบาร์เล็กๆ สไตล์ทรอปิคัลให้ได้เทสต์รัมกลิ่นรสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตะไคร้ ใบมะกรูด พริก พร้อมด้วยค็อกเทลจาก Chalong Bay Rum ซึ่งในส่วนของค็อกเทลนั้นดีงามทั้งรสชาติและความคิดสร้างสรรค์ ถ้ามาภูเก็ตแล้วนึกไม่ออกว่าจะไปบาร์ไหน แนะนำที่โรงงาน Chalong Bay Rum
ส่วนใครอยากเดินเล่นสัมผัสประสบการณ์ภูเก็ตแบบพื้นถิ่น ตัวเมืองเก่าก็ยังเป็นคำตอบที่ดีที่สุดที่ครบทั้งประวัติศาสตร์ งานอาร์ต ร้านชิล ร้านเก๋ และอาหารพื้นถิ่นที่มีคาแรกเตอร์เฉพาะตัวที่ชัดเจนมากจนไม่สามารถหาลิ้มรสในจังหวัดปักษ์ใต้อื่นๆ ได้นอกจากที่ “ภูเก็ต” เท่านั้น
โฮเต็ล อินดิโก้ ภูเก็ต ป่าตอง
ที่อยู่: ชายหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต
โทรศัพท์: 0-7660-9999
เว็บไซต์: ihg.com/hotelindigo/phuket
ราคา: 3,000-7,000 บาท