ปัญญา ลีลาสุนทรกุล | Features Editor | 16 June 2019
นี่ไม่ใช่แค่การขับรถเที่ยวธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นการขับมินิในภารกิจ MINI Wanderluster ฉลองครบรอบ 60 ปี นอกจากรวบรวมแฟนพันธุ์แท้และคนชื่นชอบมินิมาร่วมคาราวาน road trip รถมินิทั้งรุ่นคลาสสิกและรุ่นใหม่มาขับไปพร้อมๆ กันเกิดเป็นมิตรภาพและความประทับใจระหว่างเดินทาง พร้อมกิจกรรมดีๆ สร้างรอยยิ้มกลับชุมชน ในเมื่อการเดินทางน่าสนุกขนาดนี้ เราเลยไปแจมร่วมกับพวกเขาด้วย
ก่อนจะพูดถึงการเดินทาง เราอยากเล่าถึงความเป็นมาของ ‘มินิ’ สักหน่อย มินิเป็นรถยนต์ขนาดเล็กกะทัดรัดที่ถูกผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1959 โดยบริษัทบริติชมอเตอร์คอร์ปอเรชัน (บีเอ็มซี) ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับเหตุการณ์สำคัญทั่วโลก ไม่ว่าจะการประกาศให้อลาสก้ากลายเป็นมลรัฐที่ 49 ฮาวายกลายเป็นมลรัฐที่ 50 ของสหรัฐอเมริกา ฟิเดล คาสโตร ปกครองประเทศคิวบาเต็มตัว ดาไล ลามะ อายุเพียง 24 ปีเดินทางหลบหนีออกจากทิเบต ทั้งยังได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนพลังงานที่ลากยาวมาจากจากวิกฤติการณ์ซูเอซตั้งแต่ปีค.ศ. 1956 จึงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายต่อหลายรายพัฒนาเครื่องยนต์ขนาดเล็กแทนส่งผลให้การออกแบบต้องกำหนดขนาดรถยนต์ให้เล็กตามไปด้วย
จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้เกิดรถยนต์ ‘มินิ’ ขึ้นมาและเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1959 ทว่าในตอนแรกมีชื่อเรียกว่า ‘SE7EN’ และมาเปลี่ยนชื่อเป็น ‘มินิ’ ภายหลังเพื่อสื่อถึงว่ารถของค่ายนี้มีขนาดเล็กกว่าคู่แข่ง จุดเด่นของรถคันนี้คือขนาดเล็กกะทัดรัดเพียง 1.2 เมตร × 3เมตร × 1.2 เมตร เป็นรถประหยัดพื้นที่ ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า (ที่ 80% ของพื้นที่เป็นพื้นที่ของการโดยสารและกระเป๋า) ภายในไม่ได้ตกแต่งอะไรหวือหวาเพื่อลดน้ำหนักของรถลง หน้าต่างเป็นแบบหมุนมือ ล้อมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว ภายในติดตั้งเครื่องยนต์ 848cc เอซีรีส์ แนวขวางซึ่งกลายมาเป็นเครื่องยนต์อันโดดเด่นสำหรับรถรุ่นต่อมา ว่ากันว่ามินิรุ่นแรกสามารถทำยอดขายไปถึง 1,190,000 คันสะท้อนถึงความนิยมของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
หลังจากนั้นยังมีรถยนต์มินิออกมาอีกหลายรุ่น จนกระทั่งในปีค.ศ. 2000 บีเอ็มดับเบิลยูประกาศซื้อกิจการบีเอ็มซีอย่างเป็นทางการและเริ่มต้นผลิตรถยนต์มินิยุคใหม่พร้อมทั้งเปลี่ยนตัวสะกดยีห้อให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดว่า MINI ทั้งยังถ่ายทอดยีนแห่งความสปอร์ต เทคโนโลยีเครื่องยนต์และความหรูหราสะดวกจนทำให้มินิมีความพรีเมียมและมีความสุขในการขับขี่มากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นรถยนต์มินิรุ่นแล้วรุ่นเล่าก็ออกมาให้นักซิ่ง คนชอบรถขนาดเล็กได้จับจองเป็นเจ้าของจนมาถึงปัจจุบัน
การเดินทางจากทั้งหมด 12 วัน โดยพวกเขาจะขับรถมินิในระยะทางทั้งหมด 4,860 กิโลเมตร ครอบคลุม 20 จังหวัดทั่วไทย
ตัดภาพกลับมาที่การขับขี่ของเรากันต่อดีกว่า เราขับรถจากกรุงเทพฯ แวะรวมพลกับแก๊ง MINI Wanderluster ที่จังหวัดสมุทรสาครซึ่งเป็นวันที่ 8 ของการเดินทางจากทั้งหมด 12 วัน โดยพวกเขาจะขับรถมินิในระยะทางทั้งหมด 4,860 กิโลเมตร ครอบคลุม 20 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก ลำปาง เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ เพชรบุรี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี สุรินทร์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง พังงาและค่อยไปปิดท้ายที่ภูเก็ตอีกที
MINI Wanderluster ไม่ได้ขับรถเที่ยวเฉยๆ แต่ยังแวะทำกิจกรรมเพื่อสังคมตามสถานที่ต่างๆ ด้วย
เมื่อพบกันตามจุดนัดหมายแล้ว พวกเราจึงขับเป็นคาราวานย่อมๆ มุ่งหน้าไปหัวหินซึ่งเป็นจุดพักแรมต่อไป จากนั้นในวันรุ่งขึ้นแก๊ง MINI Wanderluster จะขับไปสุราษฎร์ธานี ส่วนพวกเราขับรถมินิกลับกรุงเทพฯ เป็นอันจบทริป ตอนที่รถมินิทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่เรียงแถวขับไปเรื่อยๆ ตามท้องถนนมุ่งหน้าไปจังหวัดเพชรบุรีและเข้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นภาพน่าประทับใจ โดยเฉพาะการได้เห็นรถเล็กสายพันธ์ุสปอร์ตทำความเร็วชะลอรถสายคลาสสิกเพื่อไปพร้อมๆ กัน เรียกว่าเป็นมิตรภาพระหว่างคนรักมินิที่เรียกรอยยิ้มได้ดีทีเดียว
แล้วยังรู้มาว่า คนที่ร่วมขับรถใน MINI Wanderluster ไม่ได้ขับรถเที่ยวเฉยๆ แต่ยังแวะทำกิจกรรมเพื่อสังคมตามสถานที่ต่างๆ เช่น ร่วมกันมอบเสื้อผ้าและรองเท้าให้กับน้องๆ ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ จังหวัดสุโขทัย ห้องสมุดเด็ก สวนดอกคูณ จังหวัดขอนแก่น และโรงเรียนพิชัยศึกษา จังหวัดอุบลราชธานี หรือแม้แต่อาสาลงไปช่วยกันเก็บขยะริมชายหาดบางเสร่ จ.ชลบุรี บริจาคเครื่องกรองน้ำจำนวน 60 ชุด ให้กับชุมชนจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อให้มีน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภค และถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการบริโภคน้ำสะอาดด้วย
สำหรับการขับรถระยะไกลขนาดนี้ หลายต่อหลายคนจะต้องเตรียมตัวกันพอสมควร แน่นอนว่าเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้สำหรับ 12 วันต้องพกมาเยอะหน่อย ไหนจะสุขภาพร่างกายสำหรับการนั่งในรถนานๆ แต่มากไปกว่านั้นสำหรับรถมินิคลาสสิกยังต้องเตรียมอุปกรณ์และอะไหล่บางชิ้นมาสำรองในกรณีเครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนเสียหาย ดังนั้นพอขับรถแวะตามจุดต่างๆ เราเห็นเจ้าของรถจะตรวจสอบรถอย่างละเอียดเลยทีเดียว
นอกจากทริปดีๆ สำหรับเฉลิมฉลองมินิครบรอบ 60 ปีแล้ว ในปีนี้มินิยังเปิดตัวรถใหม่ MINI Hatch 3 ประตู รุ่น MINI 60 Years Edition ที่ตกแต่งมาเป็นพิเศษตั้งแต่สีตัวถังพิเศษ British Racing Green IV ตัดสลับกับทริม หลังคาและกระจกมองข้างสีดำขลับสวยงามคลาสสิกลงตัว ขณะที่ล้อเป็นอัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมลวดลายพิเศษ ส่วนภายในตกแต่งสไตล์สปอร์ตสวยเฉียบทั้งดีไซน์และเส้นสาย บอกเลยว่าคันนี้เป็นไฮไลต์ที่ตื่นตาตื่นใจสมกับครบรอบ 60 ปีของเขาจริงๆ
เชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้ มินิ จะมีกิจกรรมดีๆ ออกมาให้แฟนคลับและคนรักรถมินิได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์และความสนุกอีกแน่นอน