×

เที่ยวญี่ปุ่นช่วงโกลเด้นวีกยังไงให้ไม่เจ็บ!

รัฐวรรณ พัฒนรัชตอดุล | writer | 26 April 2018

นอกจากช่วงสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงพีกเพราะนักท่องเที่ยวไทยไปรวมตัวกันที่ประเทศญี่ปุ่นโดยไม่ได้นัดหมาย เดินไปไหนมาไหนก็เจอแต่เพื่อนร่วมประเทศแล้ว ยังมีวันหยุดยาวอีกช่วงหนึ่งที่หากไม่สตรองพอบอกเลยว่าการเที่ยวครั้งนี้จะเป็นการท่องเที่ยวที่เหนื่อยเอาเรื่องเลยแหละ นั่นก็คือช่วงโกลเด้นวีก (ゴールデンウィーク) ของชาวญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งโกลเด้นวีกของญี่ปุ่นปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 เมษายนไปจนถึงวันที่ 7 พฤษภาคม โดยมีวันหยุดราชการในช่วงโกลเด้นวีกถึง 4 วัน รวมทั้งหมดแล้วคือ 9 วันเลยทีเดียว

วันหยุดราชการ ได้แก่
• วันที่ 29 เมษายน Showa Day หรือวันหยุดประชาชาติ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จจักรพรรดิญี่ปุ่นแห่งโชวะ
• วันที่ 3 พฤษภาคม วันระลึกทหารผ่านศึก (Constitution Memorial Day) 
• วันที่ 4 พฤษภาคม วันพฤกษชาติและสิ่งแวดล้อม หรือวันสีเขียว (Greenery Day) 
• วันที่ 5 พฤษภาคม วันเด็กแห่งชาติ (Children’s Day) 

ไม่เพียงคนไทยที่วางแผนเที่ยวช่วงวันหยุดแรงงานเท่านั้น ประชาชนคนญี่ปุ่นเองก็วางแผนเที่ยวเหมือนกัน คิดดูสิว่าคลื่นมหาชนจะเยอะแค่ไหน! แต่เอาจริงๆ แล้วข้อดีของการเที่ยวในช่วงโกลเด้นวีกก็มีเยอะ และนักท่องเที่ยวหลายคนยอมแลกกับข้อเสียที่เห็นได้ชัดจากการเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวนี้ก็คือ “จำนวนคนที่มหาศาล” เท่านั้นเอง แล้วข้อดีของช่วงโกลเด้นวีกมีอะไรบ้างล่ะ 

เราลองลิสต์ข้อดีของการเที่ยวช่วงนี้มา...หนึ่งเลย อากาศกำลังดี เพราะเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 15-24 องศาเซลเซียส ยังมีดอกไม้บางชนิดให้ชมความสวยงามอยู่ แถมด้วยเทศกาลอีกเยอะแยะ เพราะอย่างที่รู้ว่าฤดูร้อนของญี่ปุ่น เป็นฤดูที่มีเทศกาลเยอะที่สุดแล้ว (ว.แหวนล้านตัว) ไหนจะไม่ต้องขนเสื้อผ้าหนาๆ ไปเยอะอีก ที่สำคัญแม้ที่พัก ร้านอาหาร หรือร้านอื่นๆ จะถือโอกาสขึ้นราคาช่วงนี้ แต่อย่างน้อยก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งช็อปปิงบางแห่งที่ยังมีโปรโมชั่น Golden Week Sales อยู่บ้าง 

เห็นข้อดีแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาลุย! แต่ก่อนอื่นเพื่อนเดินทางขอแนะนำทริกดีๆ ที่จะช่วยให้โกลเด้นวีกครั้งนี้ไม่พีกจนสาหัสมาฝากกัน

Did You Know? 
จากผลการสำรวจ จังหวัดที่คนญี่ปุ่นนิยมไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว คือ โตเกียว โยโกฮามะ และจังหวัดต่างๆ ในภูมิภาคคันโต เช่น ยะมะนะชิ ไซตะมะ กุนมะ ชิซุโอะกะ เป็นต้น

To Do List! 
ได้เวลาสู้กับโกลเด้นวีก~กกก

1. จองทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนไปเหยียบญี่ปุ่น 
มีแผนเที่ยวดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว และยิ่งมีตั๋วรถไฟ (หากวางแผนเที่ยวที่ต้องเดินทางระหว่างเมือง) ยิ่งมีชัยไปอีก ทีเหลือคือเรื่องของการจัดสรรเวลาให้ดี เช่น เผื่อเวลาเดินทางไปยังจุดต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งถึงสองชั่วโมง ที่พักก็ควรจัดการให้จบก่อนถึงเวลาเดินทาง แนะนำให้จองล่วงหน้ามากกว่าหนึ่งเดือน จะได้ที่ที่อยากพักจริงๆ ยังไงล่ะ 

2. มีแอปพวกนี้ไว้ไม่เจ็บแน่ 
   • Japan Rail Map: รวมข้อมูลเส้นทางรถไฟ การต่อรถไฟ รวมทั้งเวลาของรถไฟทุกขบวน ยิ่งช่วงโกลเด้นวีกที่คนใช้บริการล้านแปดขนาดนี้ เหมาะที่สุดแล้ว
   • HyperDia: แอปฮิตตลอดกาลของนักท่องเที่ยว ใช้ง่ายและละเอียดมากๆ เพียงใส่สถานีต้นทางและปลายทางก็จะขึ้นข้อมูลมาหมดเลยว่าต้องเปลี่ยนสายที่ไหน เวลาเท่าไร ค่าโดยสารกี่เยน 
   • Google Maps: แอปมาตรฐานที่ทุกคนต้องมีอยู่แล้ว 
   • Travel Japan Wi-Fi: แอปเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หากสัญญาณเน็ตที่เราเตรียมไปเกิดงอแงขึ้นมาจะได้ใช้แอปนี้หาจุดที่มีบริการไวไฟฟรีได้ 
   • Tabimori: แอปเที่ยวญี่ปุ่นที่มีครบทุกอย่าง เช่น พยากรณ์อากาศ แปลภาษา สถานที่ท่องเที่ยว ติดต่อตำรวจ อัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น เป็นแอปเดียวจบทุกอย่างได้จริงๆ 
   • Instagram: อินสตาแกรมไม่ได้มีไว้แค่ลงรูปเก็บความทรงจำอย่างเดียว เพราะเราจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่คนโลคัลไปเที่ยวกัน หรือบางทีเอาไว้ใช้ดูสถานการณ์แบบเรียลไทม์ได้ด้วย จะได้ตัดสินใจถูกว่าควรไปที่นั้นๆ หรือไม่ไปดี 
   • สุดท้าย อย่าลืมเปิดโรมมิ่ง หรือซื้อเน็ตซิมไว้ด้วยละ!

3. เที่ยวตามย่านที่ปกตินักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ 
หากปักหมุดที่โตเกียว ลองไปย่านใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากนัก รวมถึงย่านธุรกิจ เพราะจะเป็นย่านที่คนไม่พลุกพล่าน เช่น ย่านชินบาชิ (Shinbashi) ยานากะ (Yanaka) เนซุ (Nezu) หรือจะออกไปทางฝั่งตะวันตกของโตเกียว เช่น ย่านนะกะโนะ (Nakano) อะซะกะยะ (Azakaya) คิชิโจจิ (Kichijoji) เป็นต้น 

4. One Day Trip ใกล้ๆ เมืองที่ตั้งไว้เป็นจุดหมาย 
หากมีเวลาไม่มากนัก แนะนำให้วางแผนเที่ยวแบบ One Day Trip เช่น หากอยู่โตเกียวอาจขึ้นเหนือไปจังหวัดไซตะมะ เที่ยวเมืองโบราณคาวาโกเอะ หรือเมืองชิชิบุ หรือจะไปจังหวัดกุนมะที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นระดับประเทศที่เมืองคุซัตสึ แล้วค่อยกลับมาเที่ยวโตเกียวก็ได้ แต่อย่าลืม! จองตั๋วรถไฟให้เรียบร้อยก่อนละกัน ไม่อย่างนั้นต้องยืนตลอดสามชั่วโมงไม่รู้ด้วยนะ 

5. หลีกเลี่ยงสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเด็กๆ และครอบครัว 
เนื่องจากเป็นช่วงเวลาพักผ่อนของครอบครัวชาวญี่ปุ่น ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวที่เด็กๆ สามารถทำกิจกรรมด้วยได้จะหนาแน่นเป็นพิเศษ เช่น สวนสนุก ธีมพาร์ก เกมเซ็นเตอร์ตามแหล่งต่างๆ และแหล่งช็อปปิงแบบสโตร์ขนาดใหญ่ เช่น Costco และ Ikea หากจำเป็นต้องไปเพราะตั้งใจมาแล้ว ลองเข้าไปดูเว็บไซต์ของแต่ละสถานที่ บางแห่งมีทิปส์ดีๆ สำหรับช่วงโกลเด้นวีกให้ด้วย บางแห่งก็มี Crowd Forecast ให้ดูอีกต่างหาก  

6. เตรียมเงินสดไปให้พอดี 
อย่าลืมว่าเป็นช่วงวันหยุดยาว เพราะฉะนั้นออฟฟิศส่วนมากจะปิดทำการรวมทั้งธนาคารด้วย แม้จะมีตู้กดเงินสด (ATM) แต่ก็มีเวลาให้บริการ ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง และไม่แน่ว่าเงินในตู้นั้นอาจหมดก่อนก็ได้ มีหวังหมดสนุกแน่นอน

Highlights During Golden Week in Tokyo 
เทศกาลในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้มีงานที่น่าสนใจหลายงาน โดยเฉพาะในโตเกียว ที่ถึงจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนแต่เราว่าน่าไป 

เทศกาลธงปลาคาร์ป (Koinobori) ที่โตเกียวทาวเวอร์ เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นสำหรับวันเด็กผู้ชาย ซึ่งตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี แม้ภายหลังจะเปลี่ยนเป็นวันเด็กแห่งชาติแล้วก็ตาม งานนี้มีการประดับปลาคาร์ปจำนวนถึง 333 ตัวตั้งแต่บริเวณทางเข้าโตเกียวทาวเวอร์เลย ในงานก็มีกิจกรรมต่างๆ ให้เด็กๆ ได้ร่วมสนุกด้วย งานนี้มีถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 

เทศกาลแห่งความมืด หรือเทศกาลคุระยะมิ (Kurayami Matsuri) ที่ศาลเจ้าโอคุนิทะมะ จะมีการหามศาลเจ้าเคลื่อนที่ ซึ่งเรียกว่าโมโกชิ ในช่วงมืดตั้งแต่เวลา 18.00 น. งานนี้จัดตั้งแต่วันที่ 30 เมษายนจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม ในแต่ละวันจะมีกิจกรรมและการแสดงต่างกันไป ดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.ookunitamajinja.or.jp/matsuri/5-kurayami.php
 



เทศกาลดอกวิสทีเรีย คะเมะอิโดะ เท็นจิน (Kameido Ten Jinja Wisteria Matsuri) ที่ศาลเจ้าคาเมะอิโดะ เท็นจิน ไม่ต้องไปไกลถึงสวนดอกไม้อาชิคางะ จังหวัดโทชิกิ ที่มีงานดอกวิสทีเรียใหญ่ระดับประเทศ ก็สามารถชมความสวยงามของวิสทีเรียสีม่วงที่ห้อยระย้าภายในศาลเจ้าแห่งนี้ได้เหมือนกัน สวยเหมือนกันไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนที่มีการไลต์อัพ แถมยังมีการออกร้านอาหารต่างๆ อีกเพียบ งานนี้มีไปจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม รายละเอียดเพิ่มเติมที่ kameidotenjin.or.jp/gallery/fuji/ 

เทศกาลราเม็งเกิร์ล (Ramen Girls Festival) จัดที่สวน Nakano Shiki no Mori Park งานนี้จัดขึ้นเพื่อให้สาวๆ ผู้ชื่นชอบการกินราเม็งได้ลิ้มลองความอร่อยของราเม็งจากหลากหลายร้าน แถมยังมีการคัดเลือกร้านอร่อยเหาะที่สุดภายในงานด้วย ดูรายละเอียดได้ที่ www.ramengirls-fes.com งานนี้ผู้ชายก็เข้าได้นะ งานมีไปจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม

ดูเทศกาลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.japantimeline.jp/en หรือ www.timeout.com/tokyo


สรุปพิกัดที่เลี่ยงได้ควรเลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องอดทนนิดหนึ่ง 
• ถนนบนทางด่วน 
• สถานีรถไฟที่ให้บริการระหว่างเมือง
• เทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นในช่วงโกลเด้นวีก
• โรงภาพยนตร์
• แหล่งช็อปปิงใหญ่ๆ เช่น ถนนทาเคชิตะ (ย่านฮาราจุกุ) ถนนนัมบะ (โอซากา) 
• ร้านอาหาร
• บาร์และสถานบันเทิงยามดึก
• ธีมพาร์กต่างๆ 
• วัดหรือศาลเจ้าที่มีชื่อเสียง เช่น วัดอาซากุสะ 
• สถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิต เช่น โตเกียวสกายทรี