×

ฮ่องกงตัวแตกกับ 16 พิกัดความอร่อยพีกในย่านเก่าสุดเก๋ Sham Shui Po

บัณฑิต ภิญโญวัฒนชีพ | Features Editor | 27 November 2018


 

เพื่อนเดินทางออกเที่ยวฮ่องกง มาถึงเรื่อง “Eat” ให้ไว้ใจ “ยอด-บัณฑิต” สายกินตัวจริงจากเพจไปกินข้าว www.facebook.com/paikinkao 1 ใน 3 เพื่อนสุดเจ๋งที่เซย์ “Yes” กับเพื่อนเดินทาง ตะลุยเที่ยว “ซัมซุยโป” (Sham Shui Po) ในฮ่องกงครบทุกด้านทั้ง Wear, Eat, Live และ Walk ไปด้วยกัน

ใครชอบตึกในธีม “Live” ต้องตามติด บ.ก.เพื่อนเดินทาง อู๋-มณฑิณี ใครชอบเรื่อง “Wear” ต้องติดตาม GandaGanda สายแฟชั่น ก่อนปิดท้ายหล่อๆ เที่ยวร้านเก๋ในธีม “Walk” กับซอล-อณวิทย์ เพจ Go!Graph ที่ติดตามทุกเรื่องได้ในวีกนี้!

                                              ---------------------------------------------------------------------------------

ได้เวลากูรูตัวจริงเรื่องกินดื่ม คุณยอด-บัณฑิต ภิญโญวัฒณชีพ หนุ่มหน้าใสสไตล์ฮ่องกงบอยมาชี้เป้าความอร่อยประจำท้องถิ่น ฟินครบทั้งร้านดั้งเดิม คาเฟ่ฮิป และตลาดเก่าที่เป็นเหมือนครัวของฮ่องกง และถ้าพร้อมแล้วออกเดินทางไปกินตัวแตกกับ 16 ร้านจัดว่าอร่อยพีกกันได้เลย

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “ไปกินข้าว” มาเที่ยว ซัมซุยโป เราเคยมาย่านนี้แล้วเมื่อปีก่อน และต้องบอกว่าย่านนี้ฮิปขึ้นกว่าปีก่อนแบบเห็นได้ชัด หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก คล้ายกับย่านเจริญกรุงในบ้านเราที่ตีกลับกลายเป็นย่านยอดนิยมอีกครั้ง แน่นอนว่าเราเคยมาแบบเร็วๆ ก็เลยยังไม่ได้อินอะไรกับที่นี่มากนัก จำได้ว่าได้กินเกี๊ยวน้ำในซุปปลา แต่มารู้ตอนหลังว่าร้านนี้ดังเรื่องเกี๊ยวทอด ฮ่าๆๆ คราวนี้กลับมาอีกเราเลยตั้งใจจะกินใหม่ให้เหมือนความอร่อยแบบคนซัมซุยโปเลยแหละ และก็จะกินให้ตัวแตกกันไปข้าง...
 

1. Tim Ho Wan
เราเดินทางมาถึงซัมซุยโปช่วงเที่ยงพอดี และร้านแรกที่นึกถึงก็เป็น “ทิมโฮวาน” เพราะสาขานี้เป็นสาขาที่ได้มิชลิน 1 ดาวในปีล่าสุด แม้ไม่ใช่สาขาดั้งเดิม แต่ 1 ดาวก็การันตีได้ว่าไม่ควรพลาด โชคดีที่เรามาวันศุกร์ เพราะกลับไปอีกครั้งในวันเสาร์กะว่าจะซ้ำ โอ้โฮ คิวยาวแบบว่า...



เราเองไปกินทิมโฮวานบ่อยครั้งในเมืองไทย ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้ค่อนข้างคุ้นเคยกับอาหารของที่นี่ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสั่งอาหารแม้อ่านภาษาจีนไม่ออก สำหรับซิกเนเจอร์อย่างซาลาเปาอบไส้หมูแดง หม่าไล่โกว ขนมผักกาด ขนมจีบ ฮะเก๋านั้นเรามั่นใจว่าไม่ได้คิดไปเองว่าอร่อยกว่าในเมืองไทย ส่วนลูกชิ้นเนื้อห่อฟองเต้าหู้และข้าวเหนียวอบใบบัวนั้นบอกได้สั้นๆ ว่าอร่อยมาก เมนูแรกเราว่าไม่มีในกรุงเทพฯ แน่ๆ ส่วนเมนูหลังไม่แน่ใจ

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 9-11 ถนน Fuk Wing
 



2. Wai Kee Noodle Café
บอกเลยว่าสูญเสียพื้นที่ในกระเพาะไปค่อนข้างมากกับทิมโฮวาน แต่จะไม่กิน “Wai Kee Noodle Café” ก็กลัวโดนครหาว่ามาไม่ถึงซัมซุยโป ที่นี่ไม่มีสาขา แต่มีถึง 3 คูหาที่คั่นด้วยตึกและตรอกเล็กๆ เห็นคูหาไหนว่างก็ตรงเข้าไปนั่งได้เลย



ความจริงแล้ว Wai Kee ก็คือชาชานเต็ง หรือร้านน้ำชานี่แหละ แต่เมนูเด่นที่ไม่ว่าใครต้องกินกลับเป็น “มาม่าตับหมูใส่เนื้อวัว” ซึ่งเราชอบมาก แต่ที่ชอบมากกว่าคือเนื้อวัวลวกนุ่มๆ ที่อร่อยแบบอร่อย ส่วนตับหมูก็ไม่ได้แย่นะ แต่เราแค่ไม่กินตับหมูที่ทางร้านใจดีให้มาเยอะถมเต็มเนื้อที่ของชามขนาดนั้น ฮ่าๆๆ

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 62 และ 66 ถนน Fuk Wing
 



3. Man Kei Cart Noodles
นับเป็นเรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นกับเราในฮ่องกง ไม่ใช่ว่าร้านนี้ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ แต่เราอิ่มเกินกว่าจะอยากกินอะไรหลายอย่าง และคิดเอาเองว่าทอปปิง 1 อย่างจะเยอะพอ เพราะสุดท้ายเราได้ลูกชิ้นเนื้อมาเพียง 2 ลูก ฮ่าๆๆ ร้านนี้ได้รับการแนะนำจากมิชลินให้เป็นร้านสตรีตฟู้ดที่ต้องกินในปี 2018



เราจะไม่ให้คุณผิดพลาดซ้ำๆ แบบเรา ก่อนอื่นต้องรับบัตรคิว ช่วงรับบัตรคิวให้ขอเมนูภาษาอังกฤษมาเลยตั้งแต่ต้น แน่นอนว่าเสียงขานเรียกคิวเป็นภาษาจีน ให้สังเกตคนที่รับคิวหน้าเรา ถ้าเขาเข้าแล้วให้พยายามยื่นคิวให้พนักงาน เมื่อได้เข้าไปนั่งแนะนำว่าให้เลือก 3-5 อย่างจากทอปปิงยอดนิยมซึ่งอยู่ด้านบนสุดของเมนูภาษาอังกฤษ จากนั้นต้องเลือกชนิดของเส้น ซอส ซุป ซึ่งถ้าเลือกอย่างครบถ้วนจะได้ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่ที่เครื่องมาแน่นชามแน่ๆ ราคาแบบที่อร่อยเลยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 80 เหรียญฮ่องกง

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 109, 121 และ 123 ถนน Fuk Wing
 



4. HeiHei Snack Stall
ร้านสตรีตฟู้ดหัวมุมที่ควรค่าต่อการกิน ทั้งของทอด ของย่าง และเครื่องในลวก คนซัมซุยโปชอบมายืนกินกันแน่นๆ ที่หน้าร้าน ทุกคนยืนกินราวกับทุกอย่างอร่อยมาก สังเกตได้จากพื้นถนนที่เต็มไปด้วยรอยหยดของน้ำจิ้มที่ยังดูใหม่สด เราแนะนำให้กินไส้หมูลวกราดซอสและมัสตาร์ด เคี้ยวหนุบหนับมาก อร่อยดี ร้านนี้ล้างเครื่องในมาสะอาดมาก ใครไม่สันทัดเครื่องใน ปลาหมึกทอดผงกะหรี่จิ้มด้วยมัสตาร์ดร้านนี้กินแล้วนึกอยากล้างปากด้วยเบียร์ต่อเลยละ

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 125 ถนน Fuk Wing
 

5. Kung Wo Beancurd Factory
นี่คือร้านเต้าหู้เก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1960 จนมาถึงเจ้าของร้านรุ่นที่ 3 คุณเรเน โซ (Renee So) เธอเล่าให้ฟังว่าร้านนี้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองออร์แกนิกจากแคนาดามาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ และใช้พื้นที่หลังร้านนี้แหละผลิตเต้าหู้ที่ยังคงทำด้วยมือ นอกจากขายเต้าหู้หน้าร้านแล้วยังมีเมนูอาหารจากเต้าหู้ต่างๆ ซึ่งเป็นสูตรคุณแม่ของเธอ และพัฒนาต่อมาในรุ่นของเธอ



มาที่นี่แนะนำว่าสั่งได้ทุกอย่าง โดยความแตกต่างของเนื้อเต้าหู้แต่ละเมนูอยู่ที่ปริมาณน้ำ เช่น Deep Fry Tofu, Deep Fry Tofu Puff และ Deep Fry Golden Fish & Soya Cake สูตรความอร่อยของร้านนี้อยู่ที่การผสมเปลือกส้มเข้าไปทำให้รสชาติของเต้าหู้เด่นขึ้น โดยเฉพาะเมนูสุดท้ายที่ผสมเนื้อปลาเข้าไปด้วย กินกับน้ำจิ้มที่แตกต่างกัน แต่ที่ห้ามพลาดที่สุดคือ Tofu Pudding หรือเต้าฮวยโรยด้วยน้ำตาลอ้อย นุ่มเนียนลิ้นมาก

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 118 ถนน Pei Ho
 

6. Sun Hang Yuen
ร้านชาชานเต็งที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สาขาดั้งเดิมเปิดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1968 บนถนน Kweilin สำหรับสาขาที่เราพาไปเป็นสาขาใหม่บนถนน Yu Chau ซึ่งปรับโฉมให้สวยเก๋น่านั่งกว่าชาชานเต็งแบบดั้งเดิมมาก แน่นอนว่าเราแนะนำสาขานี้ มาชาชานเต็งต้องสั่งชาร้อนในแก้วรูปวัว ส่วนตัวบอกเลยว่ากินกี่ร้านก็ไม่โอเค เพราะมันไม่ขม ไม่หวาน ค่อนไปทางจืดเสียด้วยซ้ำไป แต่ที่โดนจริงๆ และควรค่าต่อการกินคือแซนด์วิช Scrambled Eggs with Beef in Szechuan Style ใช้เนื้อวัวกับพริกเสฉวนที่แค่ทำให้ชาลิ้น ไม่เผ็ดแบบไม่ลืมหูลืมตา ทำให้นัวลิ้นและอร่อยแบบอยากกินอีกชิ้น

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 186 ถนน Yu Chau
 

7. Yuen Fong Dumpling Store
อีกร้านอร่อยที่เรากลับมาซ้ำหลังจากพลาดลืมสั่งเกี๊ยวทอดไปเมื่อครั้งก่อน รอบนี้เราเลือกมาเร็วก่อนมื้อเที่ยงเลยไม่ต้องต่อคิวให้เสียเวลา เข้าไปนั่งแล้วก็ระลึกถึงเมนูที่เคยกินทันที ด้วยความที่ร้านนี้เป็นสเปเชียลิสต์เรื่องเกี๊ยวก็ควรสั่งเกี๊ยวที่มีสารพัดเมนู เริ่มด้วย Watercress Dumpling & Fish Soup เกี๊ยวไส้ผักวอเตอร์เครสในน้ำซุปปลาสีขาวขุ่นที่ไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้ำ ถ้าเป็นคนจีนก็ต้องบอกว่าซุปกินแล้วเชงเชง ส่วน Pan Fried Leek Dumplings แม้แป้งจะกรอบแต่ด้านในฉ่ำ แต่ละชิ้นทำมือ เพราะถ้าสังเกตให้ดีชิ้นจะไม่เท่ากัน จิ้มกับวินีการ์ผสมซีอิ๊ว...อร่อย

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 104 ถนน Fuk Wa
 

8. Hop Yik Tai
ร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดคิวยาวมากๆ ที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ ครึ่งชั่วโมงในการรอ แต่คุ้มค่าด้วยการันตีมิชลินสตรีตฟู้ด รวมถึงรสชาติที่สำหรับเรา Hop Yik Tai คือหนึ่งในเจ้ายุทธจักรก๋วยเตี๋ยวหลอดอร่อยที่สุดในฮ่องกง เราเคยกินก๋วยเตี๋ยวหลอดแบบฮ่องกงที่ไม่มีไส้แบบนี้แหละแต่ราดแค่ซีอิ๊ว เราว่ามันไม่มีรสอะไรที่มากกว่านั้น แต่สำหรับร้านนี้นอกจากกระบะที่ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดนับพันๆ เส้นแล้วยังมีลูกเล่นเป็นซอสที่มีให้เลือกถึง 3 รส ได้แก่ ซอสหวาน ซอสงาสีครีม และซีอิ๊ว โรยด้วยงาขาวคั่ว กินแล้วได้ความหอมของงาขึ้นมาเด่นๆ เลย แถมมีรสเค็ม หวาน มัน หลายรสมาก ทำให้ก๋วยเตี๋ยวหลอดแบบฮ่องกงชนิดไม่มีไส้อร่อยขึ้นมาทันที

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 121 ถนน Kweilin
 



9. Hon Fat Noodle
อีกหนึ่งร้านชาชานเต็งคิวยาวบนถนน Tai Nan ร้านนี้เจ๊ในร้านสามารถพูดไทยได้แบบสื่อสารกันรู้เรื่อง “เอาตับไหม” “ตับอร่อย” “อันนี้หมด” เจ๊แกขายก๋วยเตี๋ยวตับแบบเชียร์สุดตัว แต่เรากินมาแล้วเลยลองบะหมี่เกี๊ยวแทน เส้นบะหมี่เล็กยาวแต่เคี้ยวอร่อยกับเกี๊ยวกุ้งตัวโต เจ๊ยังบอกว่า “ใส่น้ำมันพริกสิ ทำเอง อร่อย” (นี่เจ๊พูดภาษาไทยนะ) ซึ่งพอกินก็อร่อยจริงและเผ็ดลงคอมาก แต่เท่าที่หลายคนไปกินกันมาใครๆ ก็แนะนำมาม่าตับหมูนะ

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 192 ถนน Tai Nan
 

10. San Lung Cake Shop
ร้านเค้กสไตล์โอลด์สคูลที่เมนูบางอย่างก็คล้ายกับ Kwan Kee Store แต่รสชาติต่างกันนิดหน่อยตามรสมือของแต่ละร้าน ที่นี่มีเค้กถ้วยถั่วแดงเหมือนกันแต่ก็ยังทำเป็นแบบถาดด้วย ชิ้นใหญ่แบ่งขายเป็นชิ้นสามเหลี่ยมคล้ายพิซซ่า แต่ที่เราซื้อมากินเป็นเค้กแห้วที่ทำออกมาเป็นสีส้มและมีเนื้อแห้วแทรกตัวอยู่ จะบอกว่าเนื้อคล้ายวุ้นก็ได้ ส่วนเค้กอีกชิ้นเป็นเค้กงา ทำเป็นแผ่นกลมปั๊มลวดลายชื่อร้าน รสชาติกึ่งคาวกึ่งหวาน

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 168 ถนน Pei Ho
 

11. Pei Ho Market
ที่นี่เป็นเหมือนหัวใจของอาหารในซัมซุยโป เพราะตลาด Pei Ho คือแหล่งการค้าขายวัตถุดิบที่ใหญ่ที่สุดของย่านนี้ ชั้นล่างเป็นเขียงหมู แผงปลา ที่ยังใช้ตาชั่งโบราณขายกันอยู่เลย



ส่วนชั้นบนเป็นแผงไก่ที่เลือกแล้วเชือดกันใหม่ๆ แผงผักผลไม้ และแผงของแห้ง โดยเฉพาะ “เปลือกส้มตากแห้ง” ที่เรียงรายยาวตลอดแนวของแผงผลไม้ เรียกว่าเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้ในอาหารฮ่องกง เพราะไม่ว่าจะในติ่มซำ บะหมี่ ห่านย่าง ล้วนหอมกลิ่นเปลือกส้มเคล้าไปกับความอร่อย

พิกัดความอร่อย: ถนน Pei Ho
 

12. Urban Coffee Roaster
ถ้า “Cupping Room” เป็นร้านกาแฟเด่นทางฝั่งเกาะฮ่องกง “Urban Coffee Roaster” ก็คือร้านกาแฟดังของฝั่งเกาลูนและซัมซุยโป ด้วยความเป็นร้านกาแฟสเปเชียลตี้ที่นำเข้าเมล็ดมาคั่วเอง รวมถึงมีบริการตั้งแต่เอสเพรสโซไปถึงกาแฟดริป ทำให้คอกาแฟห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด



ที่นี่มีเมล็ดกาแฟจากทั่วโลกให้เลือกดื่มอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะกาแฟดริปหรือ Pour Over ที่ทางร้านเลือกคาแรกเตอร์ของกาแฟมาเยอะพอสมควร แต่ใช่ว่าทุกวันจะมีกาแฟทุกประเทศ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นมีกาแฟตัวไหนที่คั่วเอาไว้แล้ว เรายังสามารถซื้อแบบที่คั่วแล้วเป็นกระป๋องกลับบ้านได้ นี่เราไปเองมา 2 ครั้ง และฝากเพื่อนซื้อกลับมาอีก ดีหรือไม่เราก็เหมือนไปร้านนี้มา 3 ครั้งแล้ว

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 135 ถนน Lai Chi Kwok
 

13. Cafe Sausalito
“Cafe Sausalito” มีความก้ำกึ่งระหว่างร้านกาแฟและคาเฟ่ ระดับความซีเรียสเรื่องกาแฟที่นี่ไม่ได้ถึงขนาดมีเมล็ดกาแฟจากทั่วโลกให้ดื่ม แต่มีกาแฟเบลนด์ของตัวเองในชื่อ ShamShuiLito House Blend ที่ใช้ทำเครื่องดื่มต่างๆ โดยเฉพาะ Cucumberano อเมริกาโนใส่โซดาและไซรัปแตงกวา ดื่มแล้วสดชื่นแน่นอน นอกจากกาแฟที่นี่ยังมีอาหารเช้าแบบออลเดย์เบรกฟาสต์ให้กินทั้งวันด้วย

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 201 ถนน Tai Nan
 

14. Openground.
“Openground.” คือร้านกาแฟที่บาริสต้าของร้าน “Urban Coffee Roaster” แนะนำมาอีกที เราว่าที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับรวมหลายสิ่งหลายอย่างในหมวดไลฟ์สไตล์ ทั้งหนังสือ สินค้าเก๋ๆ กาแฟ และแกลเลอรี โดยแบ่งพื้นที่ของแกลเลอรีออกไปอีก 1 คูหา ในส่วนกาแฟเป็นรูปแบบของโต๊ะยาวให้คนมานั่งดื่มกาแฟและทำงานด้วยกัน กาแฟที่นี่ดีทีเดียว สำหรับ Dirty กาแฟเอสเพรสโซชอตกับนมเย็นๆ กลายเป็นกาแฟนมที่รสค่อนข้างเข้มข้น ส่วน Cold Brew สำหรับเรายังรู้สึกว่าไม่เข้มข้นสักเท่าไหร่

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 198 ถนน Tai Nan
 

15. Coffee Matters
คาเฟ่แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดมาได้ 2-3 เดือน โดยการรีโนเวตร้านขายหนังเก่าแก่อายุ 50 ปีให้กลายเป็นร้านกาแฟสเปเชียลตี้ที่ทำเองตั้งแต่คั่วกาแฟไปจนถึงดริปกาแฟ แม้ร้านจะยังไม่มีเมล็ดกาแฟที่คั่วเองแล้วขายแต่เราเชื่อว่าในอนาคตน่าจะมี เพราะกาแฟของที่นี่ดีไม่น้อย ขนาดเราดริปเองกับเมนู Drip by Yourself ที่ให้ลูกค้าได้ฝึกประสบการณ์ดริปด้วยตัวเอง กาแฟยังออกมาดีเลย

พิกัดความอร่อย: เลขที่ 170 ถนน Ki Lung
 

16. Kwan Kee Store
ร้านเค้กโอลด์สคูลของซัมชุยโปที่ต้องบอกว่าไม่มีเบเกอรีนมเนยเหมือนอย่างเค้กฝรั่ง จะเหมือนก็เหมือนไปทางพวกขนมสาลี่หรือหม่าไล่โกวที่ใช้วิธีการนึ่งมากกว่าการอบ เนื้อเค้กแบบฮ่องกงจึงคล้ายๆ พวกเค้กข้าวที่เนื้อนุ่ม ร้านนี้อยู่ในลิสต์ของมิชลินสตรีตฟู้ดด้วย ห้ามพลาดเค้กถ้วยที่ใช้แป้งข้าวกับน้ำตาลทรายแดงและถั่วแดง ทำออกมาหวานกำลังดี เนื้อเหมือนขนมเข่งแต่ไม่เหนียวเท่า ส่วนเค้กงาดำก็อร่อยดี นุ่ม เนื้อบางกว่าเค้กถั่วแดง

พิกัดความอร่อย: 115-117 ถนน FukWa

 

Travel Tips

  • ตอนนี้ไปฮ่องกงด้วยแอร์เอเชียง่ายพอๆ กับบินไปเชียงใหม่ เพราะมีไฟลต์บินตรงสู่ฮ่องกงถึง 3 เที่ยวบินต่อวัน แถมยังมีเที่ยวบินตรงจากเชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ บินง่าย ได้ทุกวัน!
  • สำหรับข้อมูลการท่องเที่ยวและโปรโมชั่นการท่องเที่ยวฮ่องกงเพิ่มเติม ดูได้ที่ bit.ly/hkoffers-th