ตะลุย “ซัมซุยโป” ย่านเก่าสุดเจ๋งในฮ่องกงทั้งที เพื่อนเดินทางนึกสนุก ไม่ฉายเดี่ยว ชวน 3 เพจ 3 กูรูร่วมเดินทาง กับภารกิจเที่ยวลึก เที่ยวสนุก ครบทุกด้าน ทั้ง Wear, Eat, Live และ Walk ในย่านซัมซุยโป ทริปนี้ บ.ก. อู๋-มณฑิณี เพื่อนเดินทาง พาเที่ยวในธีม Live เรียกได้ว่าเอาใจคนชอบตึก สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์

ใครชอบธีม “Wear” ต้องตามติด GandaGanda สายแฟชั่น ใครชอบ “Eat” ให้ยอด-บัณฑิต เพจ “ไปกินข้าว” จัดการ ก่อนปิดท้ายหล่อๆ เที่ยวสเปซเก๋ๆ ในธีม “Walk” กับซอล-อณวิทย์ เพจ Go!Graph ที่ติดตามทุกเรื่องได้ในวีกนี้!

                                  ----------------------------------------------------------------------------------------


มาเที่ยวฮ่องกงแบบเจาะลึกซัมซุยโป (Sham Shui Po) รอบนี้ลืมตึกทันสมัยจัดเต็มแสงสีในย่านธุรกิจไปชั่วคราว เพราะเพื่อนเดินทางจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับตึกที่มีเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ของซัมซุยโป ย่านที่ตั้งอยู่ใจกลางฝั่งเกาลูน เคยเป็นฐานที่ตั้งกองกำลังทหารและค่ายผู้อพยพ ผ่านยุคอุตสาหกรรมของฮ่องกง ก่อนกลายเป็นซัมซุยโปวันนี้

นอกจากตึกที่อยู่อาศัยสัญลักษณ์ฮ่องกง ซัมซุยโปยังมีสถาปัตยกรรมที่ได้รับการอนุรักษ์และตึกประวัติศาสตร์ที่บูรณะขึ้นใหม่เหมาะกับยุคสมัยมากขึ้นรอให้ค้นหาแบบเจาะลึก เปิดมุมมองใหม่ในย่านเก่าที่เราไม่เคยรู้

1. โรงงานที่กลายมาเป็นหอศิลป์ 
Jockey Club Creative Arts Centre (JCCAC)

เราอาจเล่าถึงหอศิลป์ JCCAC จบในประโยคเดียวได้ว่า “โรงงานที่กลายมาเป็นหอศิลป์” แต่ขอเลือกที่จะเล่ายาวกว่าเพราะอยากให้คุณได้มาอาคารสุดเจ๋ง จากเดิมที่เคยเป็นแหล่งรวมโรงงานเล็กๆ แบ่งเป็นห้องๆ ในยุคอุตสาหกรรมของฮ่องกง ซึ่งชื่อเดิมคือ Sheck Kip Mei Factory Estate ต่อมา Jockey Club ได้เข้ามาร่วมมือกับรัฐบาลพร้อมเงินสนับสนุนเปลี่ยนโรงงานเดิมให้เป็นหอศิลป์ กลายเป็นอาคารเก่าโฉมใหม่ในชื่อ JCCAC มีทั้งโรงละคร โซนจัดแสดงงานศิลปะ พื้นที่ของคนทำงานคราฟต์ ร้านนั่งจิบชาและคาเฟ่ เปิดให้บริการครั้งแรกใน ค.ศ. 2008 ให้ศิลปินและคนรุ่นใหม่มาปล่อยของทำกิจกรรม
 

2. ตึกตัว H นอนโฮสเทลแถมพิพิธภัณฑ์
Mei Ho House

“YHA Mei Ho House Youth Hostel” คือชื่อโฮสเทลเยาวชนราคาดีที่จองได้ผ่านทางเว็บไซต์ ถ้าคุณอยาก “ถึง” ซัมซุยโปแบบครบสูตร ในพื้นที่เดียวกันยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ “Heritage of Mei Ho House” บอกเล่าประวัติศาสตร์ของย่านและจุดเริ่มต้นของแฟลตฮ่องกง โดยในอดีตที่ตั้งของอาคาร “Mei Ho House” เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวฮ่องกง และเกิดไฟไหม้ใหญ่ใน ค.ศ. 1953 ทำให้มีคนไร้บ้านมากถึง 58,000 คนในชั่วข้ามคืน รัฐบาลและการเคหะจึงได้สร้าง Shek Kip Mei Estate ขึ้นเพื่อช่วยเหลือ ซึ่งกลายมาเป็นแฟลตแห่งแรกของฮ่องกงที่สร้างโดยรัฐบาล ดีไซน์ตึกรูปตัว H ถือได้ว่าโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยการเชื่อมตึก 7 ชั้น 2 ตึกที่วางขนานกันด้วยพื้นที่ส่วนกลางเพื่อรองรับความแออัดของคนจำนวนมาก บอกสภาพความเป็นอยู่ของคนฮ่องกงยุค 1950-1970 ได้เป็นอย่างดี สำหรับตึก Mei Ho House ที่เราเห็นนั้นเป็นตึกรูปตัว H แปลน “Mark I” หลังสุดท้ายที่ได้รับการอนุรักษ์ และยังได้รับรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโกใน ค.ศ. 2015 ท่ามกลางตึกจากยุค 1950 เดิมที่เกือบทั้งหมดถูกทุบทิ้งและสร้างของใหม่ขึ้นมาแทน

**พิพิธภัณฑ์ “Heritage of Mei Ho House” เปิดให้เข้าชมฟรี และปิดทุกวันจันทร์ จัดแสดงเรื่องราวได้ดีมากจนเราไม่อยากให้คุณพลาด
 

3. ร่องรอยยุคทองโรงรับจำนำที่มาพร้อมกับประตูสวิงบานคู่
Nam Cheong Pawn Shop 

“ก๊อกๆ มีใครอยู่ไหมคะ” ถ้ามาถึงถนนนัมเชิงแล้วเห็นประตูทางเข้าที่มีประตูสวิงวินเทจเปิดได้ เงยหน้าขึ้นไปเห็นป้ายค้างคาวห้อยหัวคาบเหรียญ แสดงว่าคุณได้มาถึงที่ตั้งของโรงรับจำนำนัมเชิง อีกหนึ่งตึกอนุรักษ์ของย่านซัมซุยโป ส่วนเหตุผลที่ตึกแห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์เพราะเป็นตึกที่สร้างในยุคโรงรับจำนำรุ่งเรือง ที่โรงรับจำนำและฮ่องกงเกี่ยวข้องกันมายาวนานในประวัติศาสตร์ ยิ่งช่วง ค.ศ. 1926 ที่รัฐบาลฮ่องกงออกกฎหมายรองรับ โรงรับจำนำก็ยิ่งขยายตัวรวดเร็วขึ้น ปัจจุบันโรงรับจำนำนัมเชิงเป็นอาคารที่ได้รับการพิทักษ์แบบเกรด 2 ทำให้ได้เห็นร่องรอยความรุ่งเรืองและการตกแต่งดั้งเดิม โดยเฉพาะ “ประตูสวิง” วินเทจสุดคลาสสิก
 

4. ศูนย์การแพทย์ ที่มาของชื่อถนนยีกุก 
Sham Shui Po Chinese Public Dispensary

แล้วเราก็มาถึง “ถนนยีกุก” หรือ “Yee Kuk Street” ตามป้ายชื่อถนน สิ่งที่น่าสนใจคือ คำว่ายีกุกแปลว่าคลินิกในภาษาจีนกว้างตุ้ง และเกี่ยวข้องกับตึกหลังนี้ที่มองเผินๆ อาจเหมือนตึกวินเทจทั่วไป แต่ความจริงแล้วที่นี่เป็นศูนย์การแพทย์ที่สร้างขึ้นในยุค 1930 เพื่อรองรับตึกหลังแรก จนกลายเป็นที่มาของชื่อถนนยีกุกจนถึงวันนี้ ความโดดเด่นของตัวตึกคือการนำเสนอสถาปัตยกรรมอาร์ตเดโคที่รุ่งเรืองในยุค 1930 บอกเล่าความเป็นสมัยใหม่ในช่วงเวลานั้น ตีคู่กับศิลปะการตกแต่งแบบท้องถิ่นที่ยังคงใช้เซรามิกแบบจีน เป็นเหตุผลให้ตึกหลังนี้ได้รับการอนุรักษ์ที่เรียกว่าการพิทักษ์แบบเกรด 2 ในเวลานี้



 

5. บ้านเลขที่ 170 ตึกแถวทงโหลวยอดนิยม
170 Yee Kuk Street

มาเยือนถนนยีกุกยังไงไม่ให้เสียเที่ยว ง่ายนิดเดียว แค่หลังแวะเก็บภาพศูนย์การแพทย์ Sham Shui Po Chinese Public Dispensary ต้องแวะไปชมบ้านเลขที่ 170 ตึกเก่าที่ชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนชั้นล่างเคยเป็นร้านกรอบรูปที่ปิดตัวไปแล้ว แต่ยังทิ้งร่องรอยความคลาสสิกไว้ให้ได้เห็น ความเลอค่าของตึกหลังนี้คือการเป็นตึกแถวประวัติศาสตร์แบบทงโหลวที่สร้างขึ้นในยุค 1920 และยังเป็นตัวแทนตึกแถวพิมพ์นิยมทางตอนใต้ของประเทศจีนช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 รวมถึงในย่านซัมซุยโป ในวันนี้บ้านเลขที่ 170 ได้รับการพิทักษ์แบบเกรด 2 ให้เราได้แวะชมดีไซน์จากภายนอกอาคาร