.jpg)
เมื่อเวลาเดินช้าลง บนรถไฟ Eastern & Oriental Express
มณฑิณี เชียงสงค์ | Editor-in-chief | 30 December 2018
มณฑิณี เชียงสงค์ | Editor-in-chief | 30 December 2018
แม้ว่าเทคโนโลยีจะย่นย่อเวลาในการเดินทางไปมากขนาดไหน แต่บางทีการใช้ “เวลา” นี่ละคือเสน่ห์ที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ที่แตกต่างน่าประทับใจ เพื่อนเดินทางมีโอกาสได้เดินทางไปกับขบวนรถไฟสุดหรูระดับตำนานอย่าง Eastern & Oriental Express ที่แล่นระหว่างสิงคโปร์ มาเลเซีย และกรุงเทพฯ เราพบว่านอกจากบริการและการดูแลอันแสนประทับใจตามแบบฉบับของ The Art of Belmond แล้ว การปล่อยใจนั่งชมวิวข้างทาง โมเมนต์พระอาทิตย์ตกดินฉายแสงสีสวยตัดกับดงต้นตาล การได้รู้จักเพื่อนใหม่ทั้งจากเพื่อนร่วมขบวนรถหรือจากชุมชนที่อยู่ระหว่างทาง ทำให้เวลาสามคืนสองวันบนรถไฟนั้นเหมือนจะแล่นช้าลง เราได้ค้นพบจังหวะชีวิตที่ไม่เร่งรีบ ไม่ถึงกับเนิบนาบ แต่เรียกได้ว่าเป็นจังหวะที่หัวใจตามหามานานก็แล้วกัน
ช่วงปีที่ผ่านมา เทรนด์การใช้ชีวิตแบบ Slow It Down เป็นที่พูดถึงกันมาก กับการได้สูดหายใจยาวๆ ปลดล็อกตัวเองจากความยุ่งเหยิง และการใส่ใจกับสิ่งตรงหน้า นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การท่องเที่ยวแบบ Luxury Train กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ทั้งๆ ที่หลายทศวรรษที่ผ่านมาโลกเราทุ่มแรงกายให้กับการพัฒนาเทคโนโลยีการเดินทางให้รวดเร็วฉับไว แล้วทำไมถึงอยากจะนั่งรถไฟกันอีก แต่เราค้นพบว่าบางทีจุดหมายอาจไม่ใช่สาระสำคัญทั้งหมดของการเดินทาง แต่ประสบการณ์ในช่วงเวลาระหว่างนั้นต่างหากที่กลายเป็นความทรงจำดีๆ ที่เราไม่เคยลืม
หากย้อนกลับไปในอดีต การเดินทางด้วยรถไฟคือเรื่องของกิจกรรมสุดหรู ซึ่งรถไฟ Eastern & Oriental Express ได้นำบรรยากาศความหรูหราในอดีตกลับมาอีกครั้ง ลืมตู้โบกี้เก่าๆ เบาะโทรมๆ ห้องน้ำสุดจะทนไปก่อน เพราะนี่คือโรงแรมระดับห้าดาวที่มาในรูปแบบของรถไฟ E&O Express ซึ่งเริ่มเดินทางมาตั้งแต่ปี 1993 ผ่านกรุงเทพฯ มาเลเซีย และสิงคโปร์ มีเส้นทางสองแบบ คือ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์ หรือจากสิงคโปร์กลับมากรุงเทพฯ สำหรับครั้งนี้เราเริ่มต้นทริปที่สิงคโปร์ ณ โรงแรม The Fullerton Hotel เพื่อทำการเช็กอิน ตรวจพาสปอร์ต ข้อมูลผู้โดยสารต่างๆ ให้เรียบร้อย ที่นี่จะมีทีมจาก E&O Express รอต้อนรับพร้อมอาหารว่างและเครื่องดื่มให้ แถมพนักงานหลายคนเป็นคนไทย สบายใจหายห่วง ก่อนจะเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Woodland Railway Station บริเวณพรมแดนสิงคโปร์และมาเลเซียเพื่อขึ้นขบวนรถไฟ ภายนอกอาจไม่ได้เห็นความแตกต่างอะไรมาก แต่เมื่อก้าวขึ้นรถไฟ บอกได้ทันทีว่าความพิเศษได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ว่ากันว่าการตกแต่งภายในของรถไฟขบวนนี้นำแรงบันดาลใจมาจากหนังฮอลลีวู้ดในอดีตอย่าง Shanghai Express ดีเทลของโคมไฟหรูหราและราวทองเหลืองวาววับ เสริมทัพความหรูแบบเอเชียด้วยงานปักฉลุลายแบบมาเลเซียและพรมเนื้อละเอียดจากเมืองไทย และงานตกแต่งบานไม้ต่างๆ ก็ทำจากไม้เนื้อดี ให้กลิ่นอายความงามจากยุคโคโลเนียล และสะท้อนเสน่ห์ของเอเชียแบบอินโดจีนที่สวยหรู อยู่สบาย ตัวรถไฟมีทั้งหมด 17 โบกี้ แบ่งเป็นโบกี้ห้องพักทางด้านหัวขบวนและท้ายขบวน ส่วนตรงกลางเป็นโบกี้ The Restaurant Car, Bar Car และ Saloon Car รวมถึงโบกี้ชมวิวหรือ The Observation Car อยู่ที่ท้ายขบวน
แต่ละขบวนตกแต่งสวยได้ใจราวกับหลุดมาจากฉากหนังย้อนยุค ตัวห้องมีให้เลือกสามแบบด้วยขนาดที่แตกต่างกันไป แต่ละแบบมีห้องน้ำในตัวเสร็จสรรพ ซึ่งน่าดีใจที่บรรดา Amenities ต่างๆ ในห้องน้ำเป็นของ Panpuri แบรนด์ไทยคุณภาพเยี่ยม เราจะมีบัตเลอร์ประจำแต่ละโบกี้ สามารถกดกริ่งที่อยู่ในห้องเพื่อติดต่อกับบัตเลอร์ได้ตลอด และเนื่องจากพื้นที่ในห้องแม้จะอยู่สบาย ไม่อึดอัด แต่ก็ไม่ได้กว้างขวางเหมือนห้องพักในโรงแรมทั่วไป เราจึงต้องบริหารจัดการขนาดของกระเป๋าเดินทางสักเล็กน้อย ทาง E&O Express แนะนำให้เก็บเฉพาะของใช้ไว้ในห้อง ส่วนตัวกระเป๋าและของที่ไม่จำเป็นพนักงานจะนำไปเก็บไว้ให้ในห้องเก็บสัมภาระ
คราวนี้เราได้ตัวช่วยจาก Longchamp เป็นรุ่น Le Pliage Expandable กระเป๋าแคนวาสเนื้อดีที่นักเดินทางตัวจริงต้องมี เพราะนอกจากดีไซน์สวยและน้ำหนักเบาแล้วรุ่นนี้ยังมีซิปขยายความจุเพิ่มได้แบบไม่ต้องกังวล ทริปนี้ยังพก Le Pliage Club ทั้งใบเล็กและใบจิ๋วที่พับเก็บได้ไม่เกะกะติดตัวมาอีกด้วย ได้ลุคสวยไม่เป็นบ้าหอบฟางแน่ๆ
อีกหนึ่งทิปที่อยากแนะนำคือควรมีกระเป๋าคลัตช์ใบเล็กไว้ใช้ระหว่างอยู่บนรถไฟ จะเดินไปชมวิวหรือดริงก์ที่โบกี้ไหนก็สะดวก ไม่ต้องหิ้วกระเป๋าถือใหญ่ๆ ให้เกะกะ อย่าง Hamburg Pouch ใบนี้จาก Container สวย เรียบ โก้ ให้เรารอดทุกสถานการณ์บนรถไฟสุดหรูขบวนนี้ ลองดูไอเดียการแพ็กกระเป๋าได้จากที่นี่ https://tcompanion.com/TravellersCompanion/styleandstuffcontent/30
ทันทีที่รถไฟเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา คุณจะเลือกจิบชากับเซต Afternoon Tea ในห้องส่วนตัว ชมวิวเงียบๆ จะออกไปแฮงก์เอาต์ที่บาร์ หรือจะไปท้ายขบวน สั่งเครื่องดื่มแก้วโปรด แล้วออกไปนั่งปล่อยใจกับวิวสวยๆ แบบเอาต์ดอร์ที่มีทั้งความเขียวขจีของป่าไฮแลนด์ในมาเลเซียหรือแม้แต่วิวทุ่งนาของบ้านเราก็ดูสวยแปลกไปกว่าที่เคย และไม่ควรพลาดจังหวะพระอาทิตย์ตกดิน ชมท้องฟ้าหลากสีแบบ Candy Sky ที่สุดลูกหูลูกตาไร้ตึกสูงบัง ระหว่างนี้ลองเปิดบทสนทนากับเพื่อนใหม่บนรถไฟดู เราทำมาแล้วและพบว่าเป็นอีกหนึ่งมิตรภาพดีๆ ที่น่าประทับใจ นอกจากนี้บนรถไฟยังมีบริการนวดเท้าและร้านขายของที่ระลึกให้ได้บริหารต่อมนักชอปกันพอสังเขป อ้อ บนรถไฟมีสัญญาณ WiFi บริการค่อนข้างดี ให้คุณได้อัปโมเมนต์ลงโซเชียลมีเดียแบบสบายๆ แต่ลองวางมือถือลงบ้าง ให้โอกาสหนังสือที่หมายมั่นปั้นมือจะอ่านให้จบน่าจะดีไม่แพ้กัน
และใช่ว่าจะอยู่แต่บนรถไฟ เพราะทุกช่วงเช้ามีกิจกรรมให้เราได้ไปสัมผัสกับชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ที่สามารถเลือกได้ตามชอบ อย่างเช่นเราแวะที่ Kuala Kangsar เมืองชนบททางตะวันตกของมาเลเซีย ไกด์ท้องถิ่นพาเราไปยังหมู่บ้านเล็กๆ ที่ปลูกต้นยางพาราและปลูกข้าว นอกจากได้เรียนรู้ที่มาที่ไปของต้นยางและวิธีปลูกยางแล้ว คุณจะเลือก Trekking สำรวจธรรมชาติหรือเดินลัดเลาะไปยังนาข้าวเพื่อเรียนรู้วิถีท้องถิ่นก็ยังได้ แล้วจบด้วยขนมและเครื่องดื่มรสอร่อยที่ชาวบ้านนำมาต้อนรับ และในวันสุดท้ายเราแวะจอดที่กาญจนบุรี ประเทศไทยนี่เอง มีทั้งทัวร์จักรยานปั่นชมหมู่บ้าน เที่ยวสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ หรือทัวร์ตลาดที่พาเราไปสำรวจรสชาติแบบไทยๆ พร้อมเรียนรู้เคล็ดลับอาหารไทยจานเด็ดที่ชื่นชอบ
เสน่ห์อีกอย่างของขบวนรถไฟ E&O Express ก็คือเรื่องของอาหารรสชาติเยี่ยมที่ผสานความคลาสสิกแบบยุโรปเข้ากับความอร่อยเฉพาะตัวของเอเชีย โดยในมื้อเย็นจะพิเศษหน่อย เพราะเราต้องแต่งตัวตาม Dress Code แบบ Smart-Casual แต่งองค์ทรงเครื่องเล็กน้อยดูสุภาพให้เกียรติสถานที่โบกี้ดินเนอร์สุดหรู แต่ระหว่างวันก็สามารถแต่งตัวตามสบายได้ ในบางช่วงของปี E&O Express ยังมีเชฟคนดังรับเชิญมาเดินทางและครีเอตเมนูใหม่ให้ด้วย ลองติดตามกันได้ว่าปีหน้าจะมีใครบ้าง ส่วนอาหารเช้านั้นเสิร์ฟกันถึงในห้องพักส่วนตัว ให้คุณละเลียดมื้อเช้าชมวิวแบบสบายๆ ไม่รีบร้อน หลังดินเนอร์ย้ายไปต่อที่ Bar Car ซึ่งนักเปียโนมือเก๋าคอยเอนเตอร์เทนคุณด้วยเพลงแจ๊ซเพราะๆ Peter Consigliere คือนักเปียโนชาวสิงคโปร์ที่เป็นอีกหนึ่งไอคอนประจำรถไฟขบวนนี้ เพราะทำงานมายาวนาน ปีเตอร์คุยสนุกและเป็นที่รักของแขกทุกคน ทำให้ค่ำคืนนี้ของคุณบนรถไฟไม่มีเบื่อแน่นอน
ใครที่อยากหาประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่ที่ชีวิตไม่เร่งรีบ ดื่มด่ำกับวิวสวยๆ มีเวลากับบทสนทนาดีๆ เอนจอยกับอาหารแสนอร่อย ที่สำคัญมาพร้อมการบริการชั้นเลิศ การันตีโดยเครือโรงแรมสุดหรูอย่าง Belmond ถ้านี่คือทริปในฝันของคุณ ฮอลิเดย์ครั้งหน้ารู้แล้วสินะว่าจะไปไหน
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.belmond.com/trains/asia/eastern-and-oriental-express/
Photo by Peduckk