สราลี อุรุพงศา | Editorial Manager | 02 April 2019
เราเริ่มทำคอนเทนต์นี้เพราะประทับใจความสวยงามที่มากไปด้วยเสน่ห์ของย่านหลานหลวง ถ้าเป็นคน หลานหลวงก็เป็นคนเงียบๆ แต่อยู่ด้วยแล้วสบายใจสบายตา รู้จักกันจริงๆ ออกจะไปทางคุยสนุกจนอยากอยู่ด้วยนานๆ เสียด้วยซ้ำ
ระยะหลังหลานหลวงเพิ่มเสน่ห์มากขึ้นไปอีก เพราะมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเปิดร้าน มาเพิ่มความน่ารักให้... “น่ารัก” ที่หมายถึงทั้งหน้าตาร้านและการทำตัวน่ารักนอบน้อมไปกับย่าน
เราว่าตรงนี้สำคัญ มาแบบไม่เปลี่ยนแปลง ไม่กระโตกกระตากจนเปลี่ยนสีเฉพาะตัวของย่าน แต่เป็นสีใหม่ที่วางตัวกลมกลืนไปได้พอดิบพอดี แถมยังเน้นเสน่ห์ให้ย่านเพิ่มไปอีก เหมือนกับว่ามีหลายคนทยอยกันเข้ามาบอกว่าที่นี่ดีนะ ตรงนั้นก็ดี ตรงนี้ก็สวย
ต่อจากนี้คือแนวคิดการออกแบบหน้าร้านของ 6 ร้านน่ารักที่มาใหม่ แต่ยังเคารพย่านหลานหลวงผู้อยู่มาก่อนเสมอ
1
Lao Dtom Lao
“แต่ก่อนเป็นร้าน Hazel’s Ice Cream Parlor and Fine Drinks จากขายไอศกรีม พอเปลี่ยนมาเป็นขายอาหารลาวเราก็ให้มันเป็นสไตล์โพสต์โคโลเนียลแบบฝรั่งเศส ก็ใช้โครงสร้างเดิม แต่เปลี่ยนสีของร้าน ลาวต้องเป็นสีแดงจัดจ้าน แต่เราใช้ไม้ประกอบด้วยเพราะไม่ได้ต้องการความโมเดิร์น อยากให้เข้าไปแล้วมีกลิ่นอายความลาวโบราณแบบบ้านๆ หน่อย คือเราลาวนะ แต่เป็นลาวที่เข้าใจได้ง่าย แล้วก็อยากได้ความดาร์กนิดๆ ให้ยังเป็นเราด้วย
“ประตูที่เคยอยู่หน้าร้านเราเปลี่ยนมาเป็นด้านข้างแทน และให้เป็นกระจกหมดเพราะอยากให้เห็นไฟในร้านที่เป็นเหมือนไฟสิบล้อ สาดๆ สีๆ เราอยากจะบอกว่าเราคือร้านลาวลับที่สนุกนะ เป็นร้านข้าวบวกเหล้าที่ไม่ได้เข้ามาแล้วกร่อยๆ เพราะฉะนั้นจากหน้าร้านมองเข้ามาก็สนุกเลย จะเห็นเลยว่าข้างในมีบาร์ มีเหล้าด้วย ส่วนชื่อร้านเราพยายามใช้ฟอนต์ที่ไม่ลูกเล่นเยอะ เอาที่ง่ายต่อการเข้าใจ เพราะชื่อร้านมันดูกวนๆ ไปแล้ว (หัวเราะ)
“ลูกเล่นอีกอย่างคือตู้ไปรษณีย์หน้าร้านฟากติดถนนใหญ่ ลูกค้าที่มากินที่ร้าน พอกินเสร็จเราจะแจกโปสต์การ์ดที่ร้านออกแบบเองให้เขาเขียน เราก็จะส่งให้ เพราะเราไม่อยากให้การส่งโปสต์การ์ดหรือจดหมายหายไปตามเวลาหรือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น”
จิตธนา สันทวี ผู้จัดการร้าน Lao Dtom Lao
Lao Dtom Lao
171 ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
เปิดทุกวัน เวลา 17.00-22.30 น. (ปิดวันจันทร์)
2
Eden’s
“สิ่งที่ทำให้ชอบบ้านนี้มากก็คือ หน้าบ้านด้านบนจะเป็นช่อง เป็นเหมือนกล่องยาวๆ เราเห็นคำว่า Eden’s อยู่ในช่องนี้ พอได้มาเราก็กั้นประตูเลย แล้วชื่อร้านคำว่า Eden’s ที่เป็นตัวสีทองนี่เป็นงานไม้ เริ่มจากที่เราเห็นชื่อร้านจีนในเมืองไทยสมัยก่อนเขาจะเป็นตัวอักษรทอง แล้วเวลามันแตกจะเห็นรอยแดงๆ อยู่ข้างใน เราอยากรู้ก็เลยถามที่ร้านไม้แถวนี้ เขาบอกว่าเขาใช้เทคนิคแบบเดิม แบบโบราณ คือต้องลงสีแดงก่อนแล้วค่อยลงสีทองทับ เราเลยใช้วิธีแบบนั้นกับชื่อร้านเราด้วย ก็ให้ช่างไม้แถวๆ นี้เขาทำให้
“ตอนสเกตช์ภาพเราเห็นภาพร้านเป็นสีดำกับสีทอง เห็นประตูดำๆ เพราะชอบร้านสไตล์นิวยอร์ก ประตูให้เปิดเข้าเปิดออกเน้นฟังก์ชัน สีร้านเราบอกช่างให้ทาสีเข้าไปทับ ทาหลายๆ รอบ ให้ดูเหมือนเก่า ให้ดูหนาๆ สีมันจะดูเหมือนอยู่มานานแล้ว ส่วนพวกไม้ที่เป็นดีเทลก็ซื้อมาจากร้านไม้แถวๆ นี้ เราพยายามใช้งาน อุดหนุนงานของคนท้องที่ให้ได้เยอะที่สุด ถ้าซัปพอร์ตสิ่งที่อยู่ในชุมชนได้ก็อยากทำ คือแทนที่จะไปซื้อมาทั้งหมด อย่างโต๊ะก็ไปคุยกับช่างว่าอยากได้แบบนี้ๆ ซึ่งก็ดีตรงที่ไม่ต้องขนส่งไกล แล้วก็ทำให้เรามีคอนเน็กชันกับคนในชุมชนด้วย
“พอแต่งหน้าร้านปุ๊บก็อยากให้มีสีเขียวบ้าง เลยเอาต้นไม้มาเติม แต่ไม่เยอะ เพราะบางทีก็ดูแลยาก เราไม่มีเวลาเท่าไร แต่อย่างจักรยานที่อยู่หน้าร้านนี่จริงๆ ไม่ใช่พร็อปนะ เราใช้ทำงาน เวลาไปนู่นไปนี่ คนก็จะคิดว่าเอามาตั้งไว้ทำไม แต่คือเราไม่มีที่จอดที่อื่น เลยจอดไว้ ก็กลายเป็นว่าใครมาก็ต้องมาถ่ายจักรยานตรงนี้ แต่บางทีก็ไม่เห็นจักรยานหรอกนะ เพราะเราใช้ปั่นอยู่”
นิรามย์ วัฒนสิทธิ์ เจ้าของร้าน Eden’s
Eden’s
7/1 ถนนหลานหลวง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
เปิดทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น. (ปิดวันจันทร์)
3
VL by Vee
“ตรงนี้เคยเป็นโรงรับจำนำมาก่อน เราเอามารีโนเวตใหม่ ต้องทำใหม่เยอะเหมือนกัน เพราะข้างหน้าเคยเป็นประตูเหล็ก 2 ชั้นแบบโรงรับจำนำ จะหนาๆ ทึบๆ พอทำใหม่ก็ก่อปูนเลย แล้วเจาะประตู 2 ข้าง เพราะเรามีสองร้าน คือมีร้าน Mamuang Shop ของตั้ม (วิศุทธิ์ พรนิมิต - สามี) ด้วย แต่อยากให้ดูเป็น 2 ร้านของใครของมัน เพื่อให้ดูเป็นโลกนั้น โลกนี้ จะได้เหมือนเวลาที่เราตั้ง Mindset แบบเวลาที่เห็นหน้าร้านเราจะมีจินตนาการใช่ไหมว่าข้างในจะเป็นยังไง ถ้าเป็นประตูเดียวกันก็จะไม่รู้สึกว่าแตกต่าง แต่พอทางเข้าเป็นคนละแบบก็จะมีโลกของใครของมันได้ง่ายกว่า
“เราทำทางเข้าให้เป็นแบบโค้งเพราะชอบความที่มันดูคลาสสิก เหมาะกับแบรนด์เรา แล้วตามแปลนตรงหน้าร้านจะมีผนังอยู่ เป็นพื้นที่ที่สามารถทำประตูแบบสวิงได้ เราเลยทำประตูสวิงเลย แล้วก็ติดประตูให้เอียงเข้ามานิดหนึ่ง เหมือนเป็นการบังคับทิศทางของคนเข้าให้มองเข้ามาหรือเปิดเข้ามาก็จะเห็นความกว้างด้านในเลย ไม่ใช่ว่าเจอกำแพง ส่วนป้ายเวลาเปิดปิดร้านเราก็อยากทำเป็นไม้ให้เป็นสีเดียวกับประตู
“ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้ที่ดีขนาดนี้หรอก แต่พอมาอยู่ถึงรู้ว่า โห ตรงนี้สวยมากๆ เลย สักห้าโมงเย็นมองออกไปแสงจะสวยมาก แดดที่ส่องเข้ามาในร้านก็สวยด้วย บางทีถ้าฟ้าเป็นสีชมพู ข้างนอกก็จะเป็นสีชมพูสวยเลย ก็จะคิดว่าทำไมโชคดีขนาดนี้ที่ร้านเราได้อยู่ตรงนี้”
ฮิโรกะ ลิมวิภูวัฒน์ เจ้าของร้าน VL by Vee
VL by Vee
1 ถนนหลานหลวง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 11.00-19.00 น.
4
Mamuang Shop
“ตอนเห็นตึกนี้ครั้งแรกก็เห็นภาพอยู่ในหัวเลยว่าจะต้องมีไอ้มะม่วงปูดๆ นี่แปะกำแพง จะไม่ใช่มะม่วง 3D ไม่ใช่ Painting เห็นแต่ไอ้ตัวนี้อยู่ในหัว เราก็แค่เชื่อภาพในหัวว่าเอาอย่างนั้นแล้วกัน
“ความมะม่วงก็จะเป็นโทนสีขาวๆ มีไม้ๆ อะไรอย่างนี้ คือไม่ต้องมีสไตล์อะไรมาก เรียบร้อยๆ ไว้ก่อน เพราะว่าของมะม่วงมันมีหลายแบบ จะอยู่บนสไตล์อะไรมากๆ ไม่ได้ ต้องอยู่บนอะไรที่เรียบๆ เราก็ทำประตูเลื่อนไม้ อีกอย่างรู้สึกว่าเราต้องให้คนเห็นความสวยของตึกตรงข้ามให้ได้ เพราะตึกตรงข้ามพิเศษเหลือเกิน เลยคิดว่าต้องมีกระจกนะ ก็เลยทำประตูไม้ติดกระจกใสให้คนในร้านมองออกไปได้
“เราเอาม้านั่งไม้มาตั้งให้คนนั่งกินไอติมมะม่วงที่เราขาย เพราะเวลากินไอติมจะหกเลอะ เลยให้นั่งกินข้างนอก ให้เขาได้มองต้นไม้ มองสถาปัตยกรรมข้างนอกบ้างอะไรบ้าง ที่นี่ไม่เหมือนในห้างนะ ไม่ใช่มาดีไซน์แต่ของตัวเองอะไร แต่เราอยากเชิญชวนคนมาที่นี่เพื่อให้เขาได้เจอลม เจอแดด เจอตึก เจอพระอาทิตย์ตก ตรงนี้มีพระอาทิตย์ตกที่สวยมาก สิ่งที่เรามั่นใจเลยว่าต้องมาทำร้านที่หลานหลวงคือ ตอนเดินตรงนี้แล้วมีลมพัด เฮ้ย เราไปที่ไหนไม่เคยเจอลมพัด แล้วบรรยากาศก็ดีขนาดนี้ คุณมาอยู่นี่แล้วไม่สงสารแขกน่ะ มันอาจดูลำบากนะ แต่พอมาแล้วเข้าใจ เพราะว่ามีธรรมชาติ มีอะไรให้ดู แล้วอย่างคนญี่ปุ่นมาร้านเราทุกวัน เขาก็ได้เห็นอะไรมากกว่าห้าง นั่งเรือมาก็ได้ แถวๆ นี้ก็มีวัด มีอาหารล้อมรอบไปหมด”
วิศุทธิ์ พรนิมิตร เจ้าของร้าน Mamuang Shop
Mamuang Shop
1 ถนนหลานหลวง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 11.00-19.00 น.
5
Pollen Baked Goods
“เราตั้งใจให้บรรยากาศร้านเป็นสไตล์โพสต์โคโลเนียล ถ่ายรูปเข้ามาจะสวยเพราะเห็นทั้งป้ายร้านและทั้งข้างในร้านเลย สามารถมองทะลุผ่านกระจกเห็นชิปโดนัทที่เราใช้วางขนมได้เลย
“เลือกใช้คู่สีน้ำเงินเหลืองเพราะชอบสีจัดๆ อยู่แล้ว เวลาทำโทนคู่สีแปลกๆ มันคือความไม่ตั้งใจที่ตั้งใจของเรา เราต้องการสนุกมากกว่า เพราะเปิดร้านเข้าไปจะเจอว่าข้างในเป็นคนละโทนเลย เป็นฟ้าเขียวอบอุ่นพาสเทล เพราะอยากให้คนมาข้างในแล้วรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เหมือนเราทำ Open House บ้านตัวเอง เข้ามาเช้าๆ ได้กลิ่นขนมปัง
“เราเอาผ้าดิบ โต๊ะเก่า ต้นไม้เก่ามาตกแต่ง ขอนไม้ข้างหน้าร้านก็ให้นั่งเล่นถ่ายรูปได้ ขาโต๊ะเป็นกระป๋องสีเหลือใช้ ทาสีหน่อยแต่ยังให้เห็นหน้าตาของกระป๋องเดิม เราไม่ได้ซื้อแต่ของวินเทจ แต่เอาของเหลือใช้มาใช้ด้วย เอาจริงๆ ใครเดินผ่านมาถ้าไม่สังเกตจะมองไม่เห็น เราตั้งใจให้ร้านเป็น Hidden Gem ที่คนตั้งใจจะมาจริงๆ ไม่ใช่เดินผ่านเจอแล้วกิน เพราะถนนเส้นนี้ไม่ใช่คนเดินผ่านแล้วเจอแน่ๆ คนต้องตั้งใจมา
“หลานหลวงเป็น Old Town ที่ยังคงความเดิมๆ อยู่ ไม่ได้ทาสีใหม่ ไม่ได้ปรับให้โมเดิร์น เราไม่อยากให้เสน่ห์ของ Old Town หายไป เรามีนิสัยชอบของเก่าอยู่แล้ว ก็ปรับการออกแบบทุกอย่างให้อยู่ตรงกลาง เบลนด์กับโลเคชั่นที่เราอยู่ ไม่สุดโต่ง คือทำให้ร้านเด้งมาได้ แต่เสน่ห์ของหลานหลวงจะหายไปทันที ถ้าวันหนึ่งโมเดิร์นจ๋าหรือมินิมัลสุด หรือเป็นร้านฟรุ้งฟริ้ง คนแถวนี้จะลำบาก รถติด ที่จอดรถไม่มี จริงๆ แล้วเราอยากให้คนกรุงเทพฯ มาเดินดูแถวๆ นี้ด้วย มันมีเสน่ห์ แต่ถ้าเราเปลี่ยนมัน เสน่ห์จะหาย ทีนี้เอากลับมาไม่ได้แล้ว”
จิตธนา สันทวี ผู้จัดการร้าน Pollen Baked Goods
Pollen Baked Goods
6/7 ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
เปิดทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น.
6
Alex & Beth
“ที่นี่เคยเป็นร้านขายกล้วยแขกมาก่อน มีกระทะใหญ่ๆ ตั้งในร้านเลย หน้าร้านเป็นร้านธรรมดาเหมือนบ้านที่ทอดกล้วยแขกขายทั่วไป เราก็ต้องมาก่อหน้าร้านใหม่หมด
“จริงๆ ก็เห็นภาพร้านในหัวมานานแล้วว่าอยากได้หน้าร้านประมาณมิลาน ปารีส นิวยอร์กที่เราชอบ ทีนี้เราก็สร้างหน้าร้านขึ้นมาให้เหมือนที่อยากได้เลย ให้ประตูลึกเข้าไป ตอนแรกไม่ได้อยากให้สีขาวขนาดนี้นะ แต่เพราะว่าร้านเล็ก เลยอยากให้ทุกอย่างดูโปร่งสายตา มองเข้าไปหรืออยู่ข้างในก็ไม่อึดอัด
“เราไปที่ร้านไม้แถวนี้ ก็ไปชี้ๆ หยิบๆ จับๆ ซื้อไม้มา เอาคิ้วมาทาสีขาว ป้ายชื่อร้านก็เขียนมือเอง เพราะตั้งใจว่าถ้ามีร้านตัวเองจะไม่ตัดสติกเกอร์ ก่อนเข้าร้านก็ปูกระเบื้องเล็กๆ ให้เรียงเป็นชื่อย่อของร้าน ตั้งใจให้หน้าร้านแซมสีเขียวเข้ม มีติดเหลืองนิดๆ เพราะตึกแถวนี้เป็นโทนขาว-เขียว-เหลือง ถ้าไปดูย่านเมืองเก่าอย่างแม้นศรี สามแพร่ง จะเป็นสีประมาณนี้ เราก็ให้ร้านเข้ากับเขา ใช้สีเขียวเดียวกับกรมโยธาฯ เลย แต่ก่อนตรงข้ามร้านเป็นกรมโยธาฯ นะ แต่เดี๋ยวนี้เป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว ส่วนสีเหลืองก็เป็นสีของชื่อร้าน พวกฟอนต์ต่างๆ
“จริงๆ เราว่าหน้าร้านไม่ใช่สิ่งชวนเชิญให้เข้าร้านขนาดนั้น ไม่ได้คิดว่าหน้าร้านเป็นจุดขายของเรา ไม่ได้มีหลักการในการออกแบบอะไร แค่ทำสิ่งที่ชอบ ที่เห็นว่าสวย คนที่ชอบก็อาจเป็นคนที่สไตล์เดียวกับเรา เราเลือกที่ตรงนี้เพราะชอบเมืองเก่า มีตึกสวยๆ มีผู้คน มีวัฒนธรรมที่เราอยากอยู่ด้วย”
กัญจน์ สุวรรณธาดา เจ้าของร้าน Alex & Beth
Alex & Beth
9 ถนนหลานหลวง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.00-17.00 น.
ถ่ายภาพ: ดลนภา รามอินทรา / บัณฑิต ภิญโญวัฒนชีพ