×

World at the corner ร้านหนังสือรวมแรงบันดาลใจให้ออกเดินทางของสองพี่น้องประกอบสันติสุข

ศรัณยู นกแก้ว | Writer | 07 July 2019



“การเดินทางไม่ใช่แค่ไกด์บุ๊ก แต่การเดินทางคือการเข้าไปรู้จักประเทศนั้นๆ ผ่านหนังสือหมวดต่างๆ ทั้งนิยาย นันฟิกชั่น หนังสืออาหาร หนังสือรางวัลโนแบล ไปจนถึงของสะสม ผ้าทอ และสิ่งของต่างๆ”

เมื่อสองพี่น้องนักอ่าน คุณณัฐ-คุณสิวิกา ประกอบสันติสุข ได้มานั่งตกตะกอนความคิดจากประสบการณ์กว่าครึ่งชีวิตที่คนหนึ่งคือช่างภาพ อีกคนคือนักเขียนมากฝีมือ ดังนั้นความหมายของการเดินทางจึงถูกมองในมุมใหม่ที่ต่างออกไป และนั่นจึงทำให้บ้านเลขที่ 1 บนถนนมหรรณพ ย่านเสาชิงช้า ถูกเปลี่ยนจากออฟฟิศให้กลายเป็นร้านหนังสือเล็กๆ ที่จะชวนผู้อ่านออกเดินทางไปรอบโลกผ่านความน่าตื่นเต้นและมนตราของตัวอักษร

“เราสองพี่น้องจะเดินทางทริปใหญ่ๆ ปีละครั้ง ครั้งหนึ่งก็ประมาณหนึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย ซึ่งที่ผ่านมาหนังสือมักจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากจะเดินทางไปประเทศนั้นๆ ไม่ใช่แค่หนังสือไกด์บุ๊กนะ หนังสือภาพ หนังสือนิยาย ก็สามารถทำให้เราอยากออกเดินทางไปเจอสถานที่จริงได้”

คุณสิวิกา  ประกอบสันติสุข

คุณก้อย-สิวิกา ผู้เป็นพี่สาว ย้อนเล่าถึงเหตุผลที่อยากเปิดร้านหนังสือหมวดเดินทาง ซึ่งไม่ได้มาจากความชอบเดินทางของทั้งคู่เพียงเท่านั้น  แต่เหตุผลลึกๆ ที่ทำให้อยากเปิดร้านหนังสือ เพราะทั้งคู่เป็นนักอ่านตัวยงมาตั้งแต่เด็ก ครั้นเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็เลือกเรียนคณะอักษรศาสตร์ เอกวรรณคดีอังกฤษ เหมือนกันอีก แม้ปลายทางคุณณัฐจะเลือกเดินสายช่างภาพ ส่วนคุณก้อยเลือกงานเขียน ทว่าระหว่างกลางของทั้งคู่ยังคงถูกเชื่อมโยงไว้ด้วยตัวหนังสือ พร้อมกับฝันเล็กๆ ว่าสักวันจะต้องมีร้านหนังสือเป็นของตัวเอง

“บ้านหลังนี้เราทั้งคู่เห็นมาตั้งแต่เด็ก เพราะอยู่ในละแวกเดียวกันกับบ้านเรา วันหนึ่งเมื่อบ้านหลังนี้ปล่อยให้เช่า เราจึงใช้ที่นี่เป็นออฟฟิศทำงานของพี่ณัฐ แต่ใครที่เคยเข้ามาจะรู้ว่าที่นี่ไม่ต่างจากห้องสมุด เพราะมีหนังสือกองเต็มบ้าน แรงบันดาลใจในการถ่ายภาพของพี่ณัฐ ส่วนใหญ่ก็มาจากหนังสือ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารักมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่คุณพ่อเป็นประธานสโมสร ในสโมสรมีห้องสมุดอยู่ ทุกเย็นวันศุกร์หลังเลิกเรียนคุณพ่อก็จะพาไปยืมหนังสือที่แต่ละคนชอบกลับมาอ่านที่บ้าน และก็ทำอย่างนี้มาตลอด ชีวิตจึงผูกพันกับหนังสือมาแต่เด็ก

“จนวันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เราสองพี่น้องก็มานั่งคิดว่า ถ้าแก่ไปเราจะทำอะไรกันดี พี่ณัฐเขาก็บอกว่า เขาคงจะมีความสุขมากถ้าได้อยู่ในร้านหนังสือเงียบๆ มีหนังสืออยู่รอบตัว พอคิดแล้วก็เลยเริ่มต้นทำเลย เริ่มจากไปซื้อหนังสือที่เราชอบจากงานหนังสือต่างๆ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นหนังสือที่เราซื้อสะสมมาเวลาไปท่องเที่ยว จากนั้นก็เปลี่ยนออฟฟิศเดิมเป็นร้านหนังสือนำเรื่องราวการเดินทางและหนังสือที่เราชอบมาใส่ไว้ในร้านหนังสือ”



เมื่อการอ่านมารวมกับความชอบในการเดินทาง นั่นจึงทำให้ร้านหนังสือของครอบครัว “ประกอบสันติสุข” ใช้ชื่อว่า World at the corner ซึ่งมีจุดหมายแรกของการเดินทางย้อนไปในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บ้านไม้สองชั้นหลังนี้ถูกสร้างขึ้น นับรวมอายุของบ้านได้ไม่ต่ำกว่า 110 ปี และแม้บ้านเลขที่หนึ่งแห่งนี้จะถูกเปลี่ยนสถานะจากบ้านพักอาศัย เรือนหอ มาเป็นร้านอาหาร และบาร์อยู่หลายยุค ทว่าโครงสร้างเดิมโดยเฉพาะลายฉลุไม้ และหน้าต่างที่สร้างไว้รอบตัวบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของยุคนั้นยังคงถูกเก็บไว้ จะเปลี่ยนไปก็ด้วยเรื่องของสีสันในแต่ละห้องที่มาจากครั้งที่บ้านถูกเปลี่ยนเป็นบาร์ ทว่าก็ถือเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของบ้านหลังนี้ไปในตัว

คุณณัฐ ประกอบสันติสุข

World at the corner แบ่งสัดส่วนออกเป็นมุมอ่านหนังสือ มุมชั้นหนังสือ และก็มุมขายสินค้าน่ารักๆ จากหลาหลายประเทศเน้นคอลเล็คชั่นสะสมจากการเดินทางของทั้งคู่ มีงานคราฟท์ และงานผ้าเป็นส่วนใหญ่ และอย่างที่บอกว่าร้านนี้ไม่ได้มีแค่ไกด์บุ๊ก ดังนั้นแม้โซนหนังสือจะไม่ใหญ่มาก ทว่าก็มีความหลากหลาย และบางเล่มก็ไม่สามารถพบเจอได้ตามร้านหนังสือทั่วไป



“พี่มักจะพูดเสมอว่าการเดินทางมันไม่ใช่เพียงเพราะไกด์บุ๊ก หนังสือที่นี่จึงพยายามเน้นความหลากหลาย แต่สามารถบอกเล่าถึงประเทศนั้นๆ ได้ ซึ่งหนังสือเหล่านี้นี่แหละที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากออกเดินทางไปในที่ใหม่ๆ อย่างครั้งที่ไปซีเรีย พี่เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเขาบอกว่ามีห้องสมุดใต้ดินที่เก็บอักษรลิ่มอยู่ที่เมืองๆ นี้ เราก็บอกไกด์ว่าอยากไปดูห้องสมุดตรงนี้ ที่เมืองนี้ ไกด์ก็บอกไม่ต้องไปหรอกเมืองนั้นมันไม่มีอะไรเหลือแล้ว ไม่มีอะไรให้ดู แต่พี่ก็ดื้อที่จะไป ซึ่งเมื่อไปถึงก็ไม่มีอะไรอย่างที่ไกด์บอกจริงๆ มันไม่เหลือเค้าโครงของความเป็นห้องสมุด แต่ความรู้สึก ณ วินาทีที่เราไปยืนอยู่ตรงที่ที่เป็นห้องสมุดนั้นมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆ รู้สึกดีมากที่เราได้มายืนตรงนี้”

และนอกจากจะเดินทางไปเพราะหนังสือแล้ว ในการเดินทางทุกครั้งสองพี่น้องต้องขนหนังสือกลับมาเป็นของที่ระลึกทุกครั้ง จะมีบ้างที่หนังสือที่ชอบที่ไปเจอะเจอตามห้องสมุด หรือคาเฟ่ของเมืองต่างๆ ไม่สามารถหาซื้อได้ คุณก้อยก็จะถ่ายเลข ISBN และกลับมาตามหาต่อที่เมืองไทย

“คนอื่นอาจจะถ่ายรูปวิว แต่พี่ชอบถ่ายเลข ISBN ของหนังสือ ถ่ายมาเยอะมาก ไว้กลับมาตามซื้อต่อที่เมืองไทย”


ภาพ: ชัชวาล จักษุวงค์

คุณก้อยกล่าวติดตลกถึงความคลั้งไคล้ในหนังสือที่แม้แต่คุณณัฐเองยังยอมแพ้ และที่เราต้องยอมแพ้คือความพยายามในการหาหนังสือจากประเทศต่างๆ เข้ามาไว้ในร้านไม่ต่ำกว่าพันเล่ม แม้แต่หนังสือจากท้องถิ่นเล็กๆ หรือหนังสือไกด์บุ๊กของ Louis Vuitton ก็มีครบเช่นกัน ใครเป็นนักอ่านและนักเดินทางอย่าได้หลงเข้ามาเด็ดขาด เพราะหากมาแล้วต้องใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือเล็กๆ แห่งนี้ไม่ต่ำกว่าชั่วโมง และการันตีว่าจะไม่เดินกลับออกไปมือเปล่าอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็มีโปสการ์ดสวยๆ ลิมิเต็ดเอดิชั่นจากคุณณัฐ และคุณก้อยที่ทำให้เราอยากเดินทางตามรอยอยู่ไม่น้อย


FYI

ที่ตั้ง: ซอยมหรรณพ 1 (ใกล้เสาชิงช้า) กรุงเทพฯ

เปิดบริการ: วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.

ติดต่อ: www.facebook.com/worldatthecorner