กลับมาอีกครั้งสำหรับ “การแข่งขันเรือยาวช้างไทยและเทศกาลริมน้ำ ครั้งที่ 2” จัดโดยกลุ่มโรงแรมในเครืออนันตรา เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือช้างไทยทั้งช้างบ้านและช้างป่าผ่าน มูลนิธิโกลเด้นไทรแองเกิ้ลเอเชียนเอเลเฟนท์ (Golden Triangle Asian Elephant Foundation -GTAEF) ซึ่งทำงานด้านการสร้างงคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับช้างมาตั้งแต่ปี 2549 และสำหรับในปีนี้ ทางมูลนิธิได้ชวนประชาชนทั่วไปมารู้จักช้างไทย และช่วยเหลือช้างผ่านการแข่งขันเรือยาวหัวช้างหนึ่งเดียวในไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2563 บนผืนน้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้กับโค้งน้ำโรงแรม อนันตรา ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ แต่สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะไปงานนี้ดีหรือไม่ เพื่อนเดินทาง มีไฮไลต์งานและเหตุผลที่ต้องห้ามพลาดงานนี้อย่างเด็ดขาด มาให้ได้ปักหมุดกัน

เรือยาวหัวช้างหนึ่งเดียวในไทย

ไม่บ่อยนักที่ชาวกรุงเทพฯ จะได้ชมการแข่งขันเรือยาวที่จัดขึ้นกลางกรุง และการแข่งขันเรือยาวช้างไทยและเทศกาลริมน้ำ ครั้งที่ 2 ก็เป็นหนึ่งในโอกาสดีๆ เช่นนั้น ปีนี้แชมป์เก่า ทีมยุทธการนาวา สังกัดหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ แชมป์เก่าจากปีที่ผ่านมาจะมาป้องกันแชมป์ร่วมกับทีมดังระดับประเทศเพื่อชิงความเป็นเจ้าแห่งสายน้ำ โดยทีมผู้ชนะจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ส่วนที่บอกว่าเรือยาวหัวช้างแบบนี้มีหนึ่งเดียวในโลก ก็เพราะโดยทั่วไปถ้าเป็นเรือยาวไทยจะไม่หัวเรือเป็นรูปสัตว์แต่สำหรับเรือหัวช้าง เป็นการแข่งขันเรือยาวที่ผสมผสานระหว่างวิถีสายน้ำของไทยและรูปแบบของเรือยาวสากล Dragon Boat หรือก็คือเรือหัวมังกร และเพื่อเชื่อมโยงถึงวัตถุประสงค์หลักของงานที่ต้องการระดมทุนให้กับมูลนิธิโกลเด้นไทรแองเกิ้ลเอเชียนเอเลเฟนท์ ดังนั้น เรือหัวช้าง จึงถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย โดยนำช้างในวรรณคดีที่อ่อนช้อยสวยงาม มาผสานกับความดุดันของช้างศึกแห่งสยาม แนะนำให้เตรียมกล้องและเลนส์ระยะไกลให้พร้อม เพราะนี่คือหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สายน้ำที่สำคัญของไทย

ศึกกลางเวหา จุฬา VS ปักเป้า

นอกจากการแข่งขันเรือยาวหัวช้างแล้ว งานนี้ยังจัดเต็มด้วยการแข่งขันเจ้าเวหาระหว่างว่าวจุฬา และว่าวปักเป้า ซึ่งในเมืองไทยนั้นว่าวอาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นตาในช่วงหน้าร้อน แต่การแข่งว่าวระหว่างจุฬา กับปักเป้านั้น หาชมได้ยากมาก สนามใหญ่ประจำปีมีเพียงที่จังหวัดสตูล และวัดไร่ขิงเท่านั้น ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ชมจะได้เห็นว่าวจุฬา กับปักเป้า ต่อสู่กันกลางอากาศ ชนิดที่ว่าต้องมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งหัวปักตกลงมา นอกจากนี้ยังมีการสาธิตทำว่าวจากภาคต่างๆ ให้ได้ชมกันด้วย

แข่งกรรเชียงบกชิงรางวัลที่พักสุดหรู

นอกจากการแข่งขันเรือยาวแล้ว บนฝั่งก็ยังต้องเตรียมเสียงเชียอย่างสุดเสียงกับการแข่งขันกรรเชียงบกที่ เปิดโอกาสสำหรับบุคคลทั่วไป ไม่ต้องมีพื้นฐาน แค่ร่างกายฟิตก็สามารถลุ้นรางวัลที่พักสุดหรูจากเครือโรงแรมอนันตรา หรือถ้าใครแพ้ก็ยังสามารถนำเงินค่าสมัครไปสนับสนุนงานอนุรักษ์ที่มูลนิธิโกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เอเชียน เอเลเฟนท์ ได้อีกด้วย งานนี้รับประกันความสนุกไม้แพ้เรือยาวกลางเจ้าพระยาเลย

ครบรสทั้งอาหาร ดนตรี และงานศิลปะ

อีกเหตุผลที่เราอยากชวนไปงานนี้ เพราะสามารถเลือกทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ดูเรือ ดูว่าว เล่นกิจกรรมตามซุ้มต่างๆ พร้อมด้วยอาหารอร่อยๆ เพียบ ส่วนสายอาร์ตยังแวะมาชมการสร้างสรรค์ผลงานกราฟิตีอาร์ตจาก Alex Face ซึ่งในครั้งนี้จะมาโชว์งานเพ้นท์ผ้าใบผืนยักษ์สุดอลังการให้ชมแบบสดๆ จัดเต็มด้วยมินิคอนเสิร์ตการแสดงสดโดยศิลปินชั้นนำอย่าง พาราด็อกซ์ (Paradox)และ โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน ตามด้วยเหล่าดีเจชั้นนำจากต่างประเทศ ทั้งรัสเซีย ยูเครน ออสเตรีย และฝั่งเกาะอังกฤษ ที่จะไลน์อัพมาเปิดการแสดงและสร้างสีสันความสนุกตั้งแต่ช่วงกลางวันไปจนถึงกลางคืน และทุกวันหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเหนือแม่น้ำเจ้าพระยาจะสว่างไสวจากพลุและดอกไม้ไฟหลากสีสุดตระการตา เป็นไฮไลท์ที่ควรตั้งตารอชมในแต่ละวัน

FYI

• บัตรเข้าชมงานแบบวันเดียว ราคา 200 บาท ต่อใบ/ต่อท่าน (เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรี) และบัตรวีไอพี ราคา 3,000 บาท ต่อใบ/ต่อท่าน Zรวมเครื่องดื่มและของว่าง แบบไม่จำกัด ณ เต็นท์วีไอพี)
• ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรได้ที่ www.bangkokriverfestival.com , ล็อบบี้โรงแรม อนันตรา ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ, ล็อบบี้โรงแรม อวานี ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ หรือ ที่จุดขายบัตรบริเวณหน้างาน โดยรายได้จากการจำหน่ายบัตรทั้งหมดจะนำไปสนับสนุนโครงการเพื่อช่วยเหลือช้างไทย