×

รู้จักยอร์กอย่างเพื่อนสนิทผ่านโปรแกรมทัวร์ 3 พิพิธภัณฑ์ประจำเมือง

แจน อุรุพงศา | Writer | 28 October 2019



มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเมืองยอร์กที่ประเทศอังกฤษบ่อยๆ เนื่องด้วยมีเพื่อนรักอยู่ที่นี่ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องสารภาพว่าไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักเมืองนี้อย่างจริงๆ จังๆ สักที เหมือนเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกัน แต่คนละเอก คุ้นหน้าแต่ไม่สนิท กลับมาเยือนยอร์กครั้งนี้จึงตั้งเป้าว่าจะต้องเปลี่ยนยอร์กให้เป็นเพื่อนสนิทให้ได้กับการซอกแซกเที่ยว 3 พิพิธภัณฑ์ประจำเมืองยอร์ก ที่จะทำให้เราเข้าใจยอร์กได้มากขึ้น

National Railway Mesuem

หลังจากนั่งรถไฟจาก สถานี King’s Cross ณ กรุงลอนดอน เป็นระยะทาง 303.4 กิโลเมตร เราก็เดินทางมาถึงสถานียอร์ก ใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงดี (เผลอๆ เร็วกว่าขับรถจากสีลมไปยังเอกมัยในคืนวันศุกร์สิ้นเดือนด้วยซ้ำ) ทันทีที่เดินออกมาจากสถานีก็เห็นป้ายชี้ชวนให้ไป พิพิธภัณฑ์เส้นทางรถไฟแห่งชาติ (National Railway Mesuem) เคยได้ยินมาว่าการคมนาคมทางรถไฟของประเทศอังกฤษมีความสัมพันธ์กับยอร์กอย่างเหนียวแน่น ว่าแล้วเราจึงตัดสินใจมุ่งหน้าตามป้ายไปอย่างไม่รีรอ เดินไปแค่ 5 นาทีก็มาถึงจุดหมาย

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975 เหตุผลที่สร้างขึ้นที่นี่แทนที่จะเป็นที่ เมืองหลวง ลอนดอน เนื่องจากในศตวรรษที่ 19 ยอร์กเป็นจุดชุมทางรถไฟ จุดที่รถไฟหลายขบวนจากทั่วประเทศ อังกฤษผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเพียงเพื่อแวะส่งผู้โดยสาร ส่งของ จอดพักหรือซ่อมบำรุง ยอร์กไม่เคยเกี่ยง ขอเพียงให้ “ผ่านมาทางนี้เมื่อไรให้เธอแวะมาทักทายบ้าง” ยอร์กก็ดีใจแล้ว

ก้าวเท้าเข้ามายังพิพิธภัณฑ์ในห้องแรก ในโซนที่เรียกว่า Great Hall สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1877 บริเวณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นโรงเก็บรถไฟ ปัจจุบันถูกใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงรถจักรไอน้ำโบราณ บางขบวนมีอายุเกือบ200ปี ไปจนถึงรถไฟฟ้าหัวกระสุนอันทันสมัยของญี่ปุ่น ทั้งนี้เพื่อให้เห็นวิวัฒนการของรถไฟทั้งที่ในประเทศอังกฤษ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยเปิดให้ชมอย่างใกล้ชิดทั้งภายนอก ภายใน ห้องเครื่อง หรือแม้แต่ในมุมที่ไม่เคยได้เห็น อย่างใต้ท้องขบวนรถไฟ ถึงขั้นทำอุโมงค์ให้เราเดินลอดใต้ขบวนกันเลยทีเดียว (ไม่รู้ว่าได้ไอเดียจากการลอดท้องช้างบ้านเราหรือเปล่า) อีกทั้งยังสามารถขึ้นไปนั่งจำลองสถานการณ์เสมือนว่าเรากำลังนั่งรถไฟในแต่ละยุคได้ด้วย

นอกเหนือจากบรรดารถไฟสำหรับสามัญชนและขนส่งสินค้าแล้ว ในโซนถัดมา Station Hall ยังจัดแสดงรถไฟอันหรูหราของสมาชิกในราชวงศ์ให้ได้เกาะกระจกชมกันด้วย มีตั้งแต่พระราชวังเคลื่อนที่ ของสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย ไปจนถึงขบวนรถไฟของ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 

นอกจากจะได้ชมและศึกษาประวัติศาสตร์ของรถไฟแต่ละขบวนแล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ยังจัดบริเวณให้ ผู้เข้าชมลองสวมบทบาทผู้ประกาศของสถานีรถไฟ มีสคริปต์และไมค์จัดเตรียมให้พร้อม แถมยังมีร้านอาหาร Countess of York ที่จำลองขบวนรถไฟชั้นเฟิร์สคลาส ให้ได้ลองนั่งจิบชาในแบบที่ผู้ดีอังกฤษทำกันระหว่างเดินทางในสมัยก่อน หลังจากซึบซับประวัติศาตร์การรถไฟและอิ่มหนำกับชาและขนมเต็มที่ ก็ถึงเวลาออกเดินทางไปยัง ไปศึกษาความเป็นยอร์กต่อ

 

York Castle Museum

ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาที จาก National Railway Mesuem ก็จะถึง York Castle Museum พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ หอคอยคลิฟฟอร์ดแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของยอร์ก จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์นี้ คือโซนที่เรียกว่า Kirkgate ตั้งชื่อตามผู้ใหญ่ใจดี Dr. John Lamplugh Kirk คุณหมอนักสะสม ผู้สละสิ่งของที่สะสมตลอดชีวิตมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นอกจากจะใจดีแล้ว คุณหมอ Kirk ยังมีแนวคิดในการทำพิพิธภัณฑ์ที่ล้ำสมัยกว่าใครในยุคนั้น (พิพิธภัณฑ์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1938) ด้วยการจำลองถนนสายหลักของเมืองในช่วงปี ค.ศ. 1870-1901 (ยุควิคตอเรีย) ขึ้นมาให้ผู้เข้าชมได้สัมผัส ประหนึ่งว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่ในยอร์กสมัยวิคทอเรีย

ความพิเศษของถนนเส้นนี้ไม่เพียงแค่มีอาคาร บ้านเรือน ทางเดิน และร้านค้าที่จำลองมาจากในอดีต แต่แม้กระทั่งชื่อร้านค้าที่ปรากฏ ยังเป็นชื่อร้านที่มีอยู่จริง ที่ล้ำไปกว่านั้นก็คือ เจ้าหน้าพิพิธภัณฑ์ใน Kirkgate จะแต่งตัวเป็นผู้คนในยุควิคทอเรีย บ้างก็เป็นคนขาย บ้างก็เป็นชาวบ้าน หรือบ้างก็เป็นท่านขุน ที่ทำตัวราวว่ากับอาศัยอยู่ที่นี่จริงๆ เจ้าหน้าที่แต่ละคนอัธยาศัยดีมาก พร้อมที่จะคุยและเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง



เราเข้าไปคุยกับคุณจอห์น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ยืนพิงเสาอยู่ริมถนน คุณจอห์นบอกว่า “ผมเป็นอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยงานในพิพิธภัณฑ์สัปดาห์ละครั้ง วันนี้ผมเป็นชาวบ้านจนๆครับ เครื่องแต่งกายของเจ้าหน้าที่แต่ละคนบ่งบอกสถานะทางสังคมของคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้”  ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างที่คุณจอห์นบอก เพราะมองไปรอบๆก็จะเห็นชาวเมืองแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่แตกต่างกัน หลังจากเดินออกมาจาก Kirkgate ยอร์กยุควิคทอเรีย แล้วกลับสู่ยอร์ก 2019 เราก็เริ่มสังเกตเห็นร่องรอย ของอดีตที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันตามสถานที่ต่างๆในเมืองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นถนนที่โรยหินกรวด ร้านค้าที่เปิดมานับร้อยปี หรือสถาปัตยกรรมที่ยังเก็บรักษาไว้ดังเช่นในอดีต

 

York Museum Gardens

หลังจากใช้เวลาข้างในพิพิธภัณฑ์ถึงสองแห่ง ก็ถึงเวลาออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้างที่ สวนพิพิธภัณฑ์แห่งยอร์ก (York Museum Gardens) สวนสาธารณะกลางเมือง ที่นอกจากเป็นพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์แล้ว ภายในสวนเป็นที่ตั้งของโบราณสถาน ไม่ว่าจะเป็นซากปรักหักพังของโบถส์ในยุคกลางอย่าง St Mary Abbey กำแพงและหอคอยจากยุคโรมัน รวมถึงพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในประเทศอังกฤษสร้างขึ้นมาเพื่อเก็บชิ้นส่วนและวัตถุทางประวัติศาสตร์ ‘Yorkshire Museum’

ในวันที่อากาศเป็นมิตร ชาวเมืองจำนวนมากจะออกมานั่งพักผ่อนหย่อนใจกันในสวนแห่งนี้ มีต้นไม้ กำแพงเมือง หอคอย และซากปลักหักพังของโบถส์ เป็นฉากหลัง เสมือนเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวยอร์กที่ผสมผสานอดีตเข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ในยุคปัจจุบันอย่างกลมกลืน...นี่แหละยอร์ก เพื่อนสนิทคนใหม่ของฉัน

ขอบคุณภาพ: York Museums and Gallery Trust / National Railway Museum

 

FYI

National Railway Museum

Leeman Road, York YO26 4XJ

เปิด: ทุกวัน 10.00 - 18.00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

 

York Museum Castle

Eye of York, York, YO1 9RY

เปิด: ทุกวัน 09.30 - 17.00 น.

ค่าเข้าชม: 10.90 ปอนด์


York Museum Garden

York YO26 4XJ

เปิด: ทุกวัน 07.30 - 18.00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

 

 

 

 

แจน อุรุพงศา

ชื่อเล่น แจน คือชื่อที่ครอบครัวตั้งให้ ด้วยเหตุผลไม่ซับซ้อนเพราะว่าเกิดเดือนมกราคม เพื่อนๆ เรียกแจนแจน เพราะชื่อซ้ำกับเพื่อนในห้อง ส่วนครูแจนแจนเป็นนามปากกาที่ใช้เวลาเขียนหนังสือเด็ก (ผลงานล่าสุดเป็นหนังสือนิทานเรื่อง "แมวที่ไม่เคยยิ้ม" หาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปค่ะ) ที่เรียกตัวเองว่า "ครู" เพราะทำงานคลุกคลีอยู่ในวงการศึกษามากว่า 10 ปี ก่อนจะลาออกแล้วพลิกผันบทบาทมาเป็นนักเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ระหว่างเรียนถ้ามีว่างจากการเก็บข้อมูลวิจัยก็จะหนีเที่ยวต่างเมืองเก็บเกี่ยวความสุขอยู่เสมอๆ