×

ตามหาทุ่งสีม่วงของดอก Bluebell อีกความลับแห่งผืนป่าอังกฤษ

อรุณี ชูบุญราษฎร์ | writer | 01 June 2019



เมื่อฤดูหนาวอันเหน็บหนาวผ่านพ้นไป ถึงเวลาของเทพีเพอร์เซโฟนี (Persephone) แห่งฤดูใบไม้ผลิที่จะคืนความอบอุ่นและความมีชีวิตชีวาแก่ธรรมชาติ เพื่อเป็นรางวัลแก่มนุษย์ที่อดทนจนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ สำหรับคนเมืองร้อนแบบเราที่นานๆ จะได้สัมผัสความหนาวเย็นสักที อาจไม่อินกับฤดูกาลเท่ากับผู้คนในบ้านมืองในซีกโลกทางเหนือที่เขามีฤดูกาลอันชัดเจน และเฝ้ารอฤดูใบไม้ผลิที่มาพร้อมแสงแดดอุ่น เสียงนกร้องที่ไพเราะอย่างใจจดใจจ่อ แต่ข้อหนึ่งที่เรารู้สึกดีหากมีโอกาสไปต่างประเทศในฤดูใบไม้ผลิคือการได้ชมดอกไม้สวยๆ ที่ทยอยกันออกดอกอวดรูปทรงและสีสันให้ชื่นตาชื่นใจ เป็นช่วงเวลาที่สวนดอกไม้ทั่วโลกจะเนืองแน่นไปด้วยคนที่ชอบดอกไม้







ฉันมีแผนไปอังกฤษในช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิอย่างเป็นทางการ (วันที่ 21 มีนาคมถึง 21 มิถุนายน 2562) จึงได้เห็นดอกไม้หลายพันธุ์ออกดอกสะพรั่ง ตั้งแต่ต้นซากุระ (Cherry Blossom) ในลอนดอนไปจนถึงเรปซี้ด (Rapeseed) ที่ปลูกกันเป็นทุ่งสุดลูกหูลุกตา ระหว่างการเดินทางจากลอนดอนไปลิเวอร์พูลสีเหลืองอร่ามของเรปซี้ดทำให้ทิวทัศน์สองข้างทางดูสบายตา แต่เรปซี้ดเป็นพืชที่ปลูกเพื่อใช้ทำน้ำมัน ไม่ใช่ไม้ตัดดอกเพื่อประดับตกแต่งให้สวยงาม อีกไม่นานเมื่อชาวสวนตัดดอกหมดทุ่ง ทุกอย่างก็จบ และรอฤดูกาลใหม่

แต่ดอกไม้ที่ฉันตั้งใจไปตามหาตามคำชวนของน้องที่อยู่ที่อังกฤษคือ “บลูเบลล์ (Bluebell)” ดอกไม้ที่ชื่อเป็นสีฟ้าแต่ดอกมีสีม่วง ซึ่งจะออกดอกเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ และจะมีอายุอยู่ไม่นาน จากอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้ไม่อาจรู้ได้แน่นอนว่าบลูเบลล์จะผลิดอกเบ่งบานในช่วงไหนแน่ เป็นแค่การประมาณการว่ากลางเดือนเมษายนน่าจะเริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว ซึ่งตรงกับช่วงที่ฉันไปพอดี งานนี้ต้องคงต้องขอให้โชคช่วยสักหน่อย

ฉันเดินทางด้วยรถไฟจากลอนดอนไปบริกเฮาส์ (Brighouse) ที่อยู่ทางเหนือเมืองฮัดเดอร์สฟีลด์ (Huddersfield) ในเวสต์ยอร์กเชอร์ ห่างไปแค่ 6 กิโลเมตร รถไฟไปบริกเฮาส์ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ซึ่งก่อนวันเดินทางน้องส่งข่าวมาว่าเริ่มมีออกดอกแล้วแต่ยังไม่เยอะเท่าไร ฉันเลยทำใจไว้ว่าสิ่งที่อยากมาดูมาเห็นอาจไม่เป็นดังหวัง

น้องขับรถมารับฉันจากสถานีรถไฟ แล้วเราก็ตรงดิ่งไปยัง Park Wood Crematorium ในบริกเฮาส์ทันที จริงๆ ภูเขาใน Park Wood กินอาณาบริเวณกว้างมาก เข้าได้จากหลายทาง แต่น้องเลือกมาเข้าทางนี้เพราะมีที่จอดรถและเดินเข้าไปในป่าได้สะดวกที่สุด ระหว่างทางเดินมีดอกเดซี่สีขาวและสีเหลืองดอกเล็กๆ ออกดอกแทรกกับพื้นหญ้าน่ารักเชียว เราเดินเข้าป่าไปแค่นิดเดียวก็เริ่มเห็นสีม่วงเล็กๆ เรี่ยบนพื้นสองข้างทาง ซึ่งบอกให้รู้ว่าวันนี้บลูเบลล์ยังไม่บานเต็มพื้นที่เพราะยังมีสีเขียวแทรกอยู่ และถ้าถึงวันนั้นเนินเขาทั้งผืนนี้จะกลายเป็นสีม่วงไปหมด

บลูเบลล์ (Hyacinthoides non-scripta) เป็นดอกไม้ป่าที่มีถิ่นกำเนิดในอังกฤษ ชอบอากาศเย็น ชื้น ความชุ่มชื้นจากฤดูหนาวที่สะสมในพื้นดินจะทำให้สีของดอกสว่างขึ้น ซึ่งถ้ามีความชื้นและไม่ถูกรบกวนต้นบลูเบลล์จะเติบโตเต็มที่ แต่ละก้านของต้นจะมีดอกบลูเบลล์ที่เมื่อบานเต็มที่จะโค้งงุ้มลงลักษณะเหมือนระฆังคว่ำประมาณ 20 ดอก ที่เมื่อบานครบทุกดอกจะสวยมาก ดูแล้วรู้สึกดีเพราะดอกที่คว่ำลงนั้นสื่อความหมายถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนและซื่อสัตย์

ฉันกับน้องเดินเข้าไปในป่าด้วยอารมณ์เบิกบาน อากาศเย็นๆ กับดอกไม้สวยตรงหน้าทำให้เราถ่ายรูปกันไม่หยุด เมื่อเดินเข้าป่าไปเรื่อยๆ มองขึ้นไปบนเนินเขาก็เห็นพรมสีม่วงอยู่ลิบๆ สวยจับตา ชาวอังกฤษยกให้บลูเบลล์เป็นดอกไม้ที่เฝ้ารอ เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นฤดูกาลที่สดชื่น สวยงาม สบายกาย สบายใจ เมื่อปีหนึ่งออกดอกเพียงครั้งเดียวจึงต้องวางแผนและไปชมความงามกันตามป่าต่างๆ

ฉันเองโชคดีที่ได้มาชมในคราวนี้ แม้จะมาเร็วไปนิด แต่แค่นี้ก็สวยจับใจแล้ว