ทะเลหวานที่มัลดีฟส์: ปริญ สุภารัตน์ และคิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส

หากถามว่าทำไมใครๆ ก็ไปมัลดีฟส์ สำหรับคนรักทะเลแล้วที่นี่คือจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลไม่มีวันเบื่อ หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือ ประเทศนี้ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการัง หรืออะตอล (Atoll) จำนวนมากกลางมหาสมุทรอินเดีย ไหนจะภาพของรีสอร์ตดีไซน์สวยบนเกาะที่ล้อมรอบด้วยหาดทรายสีขาวเนื้อละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าใสที่ลดหลั่นไล่สีไปตามความตื้นลึกของท้องน้ำที่สวยจับตา และเพื่อจะไปเยือนดินแดนเปี่ยมเสน่ห์อย่างมัลดีฟส์อีกครั้ง เราออกเดินทางด้วยเครื่องบินของบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) เพื่อลงจอดที่สนามบินนานาชาติเวลานา (Velana International Airport) ท่าอากาศยานหลักของประเทศมัลดีฟส์ (Republic of Maldives) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะฮูลฮูเล (Hulhule Island) ทางตอนเหนือของมาเล อะตอล (North Male Atoll) ใกล้กับเมืองหลวงคือ กรุงมาเล (Male) ที่อยู่แยกไปอีกเกาะหนึ่ง โดยมีอีกหนึ่งเรื่องน่ารู้คือ มัลดีฟส์มีเกาะทั้งหมด 1,190 เกาะ แต่มีคนอาศัยเพียง 20 เกาะเท่านั้น โดยเกาะที่ได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวมีประมาณ 74 เกาะ

และหนึ่งในลาวิยานี อะตอล (Lhaviyani Atoll) แนวปะการังที่งดงามก็คือ เกาะคานูฮูรา มัลดีฟส์ (Kanuhura Maldives) ซึ่งเพิ่งเปิดบริการเมื่อ พ.ศ. 2559 หลังจากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแต่งโฉมใหม่ครั้งใหญ่จนกลายเป็นรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาวที่ใครๆ ต้องหันมามอง และยังเป็นรีสอร์ตที่เวิลด์ เซอร์ไพร้ส ทราเวิล จำกัด เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ มีโปรโมชั่นดีๆ ร่วมกันอยู่อย่างน่าสนใจทีเดียว ส่วนเรื่องการเดินทางนั้นแสนสะดวกสบาย เพราะหลังจากเครื่องบินของบางกอกแอร์เวย์สลงจอด เจ้าหน้าที่จากคานูฮูรา รีสอร์ตจะมาทักทายต้อนรับและพาคุณมุ่งหน้าไปยังเลานจ์ส่วนตัว เพื่อรอขึ้นเครื่องบินน้ำขนาดจิ๋วที่จุผู้โดยสารได้ประมาณ 12 คน ซึ่งจะพาคุณไปร่อนลงในทะเลหน้ารีสอร์ต และทันทีที่มาถึงท่าเทียบเรือและเครื่องบินน้ำ พนักงานหลายคนก็มายืนเรียงรายคอยต้อนรับอยู่เต็มท่า คอยบริการขนสัมภาระ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ซึมซับกับบรรยากาศที่สดชื่นของท้องทะเลสีฟ้าใส ก่อนเจ้าหน้าที่ส่วนตัวจะนำไปยังวิลล่าที่สวยงาม

คานูฮูรามีวิลล่าทั้งหมด 110 หลัง ตกแต่งอย่างประณีตบรรจงและทันสมัยด้วยวัสดุธรรมชาติ วิลล่าแต่ละหลังมีเฉลียงไม้ส่วนตัวยื่นไปสู่ชายหาดหรือบนทะเล มีหลายแบบให้เลือกพักแตกต่างกันไป หนึ่งในแบบห้องพักที่น่าประทับใจ คือ ห้องพักแบบวอเตอร์ วิลล่า ซันไรส์ (Water Villa Sunrise) ยื่นออกไปในทะเลที่ใสราวกับกระจก บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นกระทบเนินทรายปลายหาดดังแผ่วๆ แว่วมา ราวกับบ้านส่วนตัวย่อมๆ มีเตียงนอนใหญ่ มีมุมนั่งเล่นและเฉลียง พร้อมหมอนอิงหลากสีบนตาข่ายเก๋ไก๋ที่ถักทอสานไว้เหนือผิวน้ำให้เอกเขนกชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า หรือนอนรับลมทะเลเย็นๆ ในยามบ่าย

แต่แม้จะติดใจในความอบอุ่นและสะดวกสบาย ก็ไม่ควรพลาดมุมอื่นๆ ของคานูฮูราที่มีอะไรดีๆ อีกมากให้สัมผัส อย่างเรื่องอาหารการกินก็มีให้เลือกไม่เบื่อแม้จะอยู่ยาวเป็นอาทิตย์ เพราะมีร้านอาหารและบาร์ให้เลือกชิมหลายแห่ง เป็นต้นว่า อา มาโน (A Mano) ร้านอาหารนานาชาติที่เปิดบริการทั้งวัน, บอตเตกา (Bottega) ที่บริการอาหารอิตาเลียนจากทุกภาค มีเตาปิ้งพิซซ่าร้อนๆ เรียกน้ำย่อย ที่นั่งทันสมัย ในบรรยากาศสบายๆ แบบคานูฮูรา และไม่ควรพลาด Chef’s Herbs Garden โต๊ะอาหารสมุนไพรที่ตั้งอยู่ในแปลงผัก เสิร์ฟอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบที่เก็บได้ในสวน ส่วนถ้าใครไปที่โฟโก (Fogo) ที่นี่จะให้บริการอาหารแบบบราซิเลียน (Brazilian Cuisine) บรรยากาศในมื้อค่ำ และบางครั้งบางคราวก็มีมื้อกลางวันด้วย หรือจะรับบริการอาหารกลางวันพิเศษที่เจนูฮูนูรา (Jenuhunura Island) เป็นเกาะส่วนตัวที่อยู่ไม่ไกลจากคานูฮูรา เพียงนั่งสปีดโบ๊ตแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น เพื่ออิ่มอร่อยกับร้านแบบปิ้งย่างที่จัดขึ้นพิเศษ

อีกหนึ่งกิจกรรมที่อยากให้แขกผู้มาเยือนที่นี่ได้ลองคือ การนั่งเรือพื้นเมืองที่เรียกว่า โดนี (Dhoni) ล่องไปในท้องทะเลยามเย็น ซึ่งระหว่างที่เรือแล่นไปจะมีนักดนตรีพื้นเมืองบรรเลงเพลงของมัลดีฟส์ให้ฟังอย่างเพลิดเพลินด้วยจังหวะจะโคนที่สนุกสนานคึกคัก แถมยังอิ่มอร่อยไปด้วยหอยนางรมสดๆ คาเวียร์ กุ้ง ปู และบาร์บีคิว พร้อมกับจิบแชมเปญหรือไวน์ไปพลางๆ ส่วนใครที่ชอบตกปลาก็สามารถประลองฝีมือได้ ทั้งยังมีกิจกรรมทางน้ำให้ทำอีกมากมาย ทั้งการเล่นวินด์เซิร์ฟ (Windserfing) เรือใบคาทามาแรน (Catamaran Sailing) สกีน้ำ (Waterski) หรือเวกบอร์ด (Wakeboard) ให้โลดแล่นไปบนพื้นน้ำใส หรือจะเลือกว่ายน้ำในสระ ทำกิจกรรมอย่างการขี่จักรยานรอบเกาะ เล่นโยคะ หรือเต้นแอโรบิก ออกกำลังกาย เมื่อยล้าแล้วก็ต่อด้วยบริการโคคา สปา (Kokaa Spa) ทั้งหมดเป็นเหตุผลดีๆ ที่ทำให้ใครหลายคนเบื่อมัลดีฟส์ไม่ลงเช่นกัน