Traveller's Companion | Traveller's Companion | 12 January 2018
การเดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนไม่ว่าครั้งใดเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมเดินทางไปพร้อมกับชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต นักแสดงที่มีชื่อเสียง มีแฟนๆ ทั่วประเทศติดตาม โดยมีจุดหมายปลายทางคือ ภูเขาชิงเฉิง (Mount Qing Cheng) แหล่งมรดกโลกที่มีชื่อเสียงในมณฑลเสฉวน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเฉิงตู (Chengdu) เมืองหลวงของมณฑลนั่นเอง
ไฮไลต์แรกที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องทึ่งและต้องกล่าวถึงคือ ตูเจียงเยี่ยน สุดยอดระบบชลประทานสู่การเป็นมรดกโลก ที่คนจีนทั้งประเทศภาคภูมิใจกับภูมิปัญญาบรรพบุรุษตั้งแต่ยุคสามก๊กของพวกเขาที่ยังใช้งานได้ดีในปัจจุบัน ย้อนไปในยุคราชวงศ์ฉินที่ก่อตั้งโดยจิ๋นซีฮ่องเต้ เฉิงตูซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของมณฑลเสฉวนประสบกับปัญหาน้ำท่วมทุกปี ทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก ฮ่องเต้จึงให้หลีปิง ผู้ปกครองมณฑลแก้ปัญหาดังกล่าว หลีปิงใช้เวลาสำรวจเส้นทางแม่น้ำหมินเจียง (Minjiang) เปลี่ยนเส้นทางแม่น้ำให้น้ำที่ไหลบ่าท้นจากภูเขาหลังหิมะละลายไปสู่พื้นที่ราบเฉิงตู และลดพลังน้ำที่บ่าท่วมรุนแรงด้วยการทำประตูน้ำและคันดินเพื่อลดพลังน้ำเป็นช่วงๆ ก่อนเบนเส้นทางน้ำไปในทิศทางที่ต้องการ เกิดเป็นคำกล่าวคู่แผ่นดินจีนแต่โบราณว่า “ทางเหนือมีกำแพงยักษ์ ทางใต้มีระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยน” ที่ต่อมาระบบชลประทานนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใน พ.ศ. 2543
นอกจากนี้ตูเจียงเยี่ยนยังขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามโรแมนติกด้วยการประดับประดาแสงสีที่งดงามในช่วงค่ำคืน สำหรับขาชอป ในเขตเมืองเก่าบนถนนการค้ามีสินค้าให้เลือกซื้อจำนวนมาก (ยกเว้นแบรนด์เนมอย่างในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้) ช่วงปลายฤดูหนาวยังสามารถหาซื้อชุดจีนสวยๆ อย่างผ้าลายพิมพ์โบราณที่เยอะทั้งการปักและลวดลาย (ในฤดูร้อนผ้าจะเป็นอีกแบบอีกลาย) ทั้งยังหาโอกาสลิ้มรสอาหารพื้นถิ่นของมณฑลเสฉวนแสนอร่อยได้ง่ายๆ โดยไม่ขาดฮวาเจียว เครื่องเทศที่ให้รสเผ็ดซ่าๆ ที่เรียกว่ารสหม่าล่า ไม่เผ็ดร้อนแบบพริกบ้านเรา
ไฮไลต์สำคัญถัดมาที่ทุกคนรอคอยคือ ภูเขาชิงเฉิง ที่เป็นทั้งแหล่งกำเนิดลัทธิเต๋า และเป็นสวรรค์ของแพนด้ากับแฟนภาพยนตร์ “กังฟูแพนด้า” โดยดรีมเวิร์กสแอนิเมชัน ภูเขาแห่งนี้เป็นบ้านของแพนด้าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติจำนวนมาก รวมทั้งเป็นที่ตั้งของศูนย์อนุรักษ์แพนด้าหลายแห่ง แต่มีหนึ่งสถานที่ที่เราจะชมแพนด้าได้อย่างอิ่มตาอิ่มใจ นั่นคือที่แพนด้าวัลเลย์ (Panda Valley) หรือชื่อเต็มว่า Chengdu Field Research Center for Giant Pandas โดยเหตุผลที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมายังศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้ ได้แก่ มีการจัดแต่งภูมิทัศน์ให้สวยงาม มีการรวบรวมพันธุ์ไม้ต่างๆ อีกทั้งมีการจัดให้ได้ชมแพนด้ายักษ์อย่างใกล้ชิดในสภาพแวดล้อมที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การมองผ่านกรง ทำให้แตกต่างจากสวนสัตว์ จึงสัมผัสได้ว่าศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้เน้นการจัดสภาพแวดล้อมให้แพนด้าภายในศูนย์ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จะให้ดีนักท่องเที่ยวควรเดินทางมาตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องไปเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และเวลาเช้าก็เป็นเวลากินอาหารของแพนด้านั่นเอง
ด้วยการเดินทางโดยรถยนต์เพียง 20 นาทีจากที่พัก Six Senses Qin Cheng Mountain เราก็มาถึงเมืองที่มีอายุพันกว่าปีอย่างเจียจึ (Jiezi) เมืองโบราณที่เป็นทางผ่านเส้นทางสายไหมในประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในเทศมณฑลฉงโจว (Chongzhou) ภายใต้การปกครองของนครเฉิงตู เนื่องจากเมืองโบราณแห่งนี้ห้ามใช้รถยนต์ในการสัญจร เมื่อเดินทางมาถึงที่นี่นักท่องเที่ยวจึงเลือกใช้บริการรถพ่วง ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์พ่วงประทุนเหมือนพ่วงรถม้าไว้ด้านหลัง มีประตูปิดมิดชิดช่วยป้องกันลมหนาวบาดผิวได้ในช่วงหน้าหนาวมาเยือน ถนนที่เข้าสู่เมืองโบราณแห่งนี้มีการปรับภูมิทัศน์ใหม่ โดยสองฟากเป็นห้องแถวโบราณที่สร้างขึ้นจากไม้และตกแต่งสลักเสลาอย่างสวยงาม บางหลังชั้นล่างก่ออิฐฉาบปูนแต่ชั้นบนเป็นไม้ เป็นสถาปัตยกรรมจีนเต็มรูปแบบที่แสดงให้เห็นว่าที่นี่เคยมีความมั่งคั่ง เพราะนี่คือเมืองที่ผนวกอยู่ในเส้นทางสายไหม จึงรุ่งเรืองด้วยการค้าขาย ปัจจุบันรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน
ครั้งหนึ่งเจียจึเคยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเฉิงตูด้วย แต่โชคดีที่อาคารร้านค้าโบราณที่ทำจากไม้และหินไม่เสียหายมากนัก เราจึงยังได้เห็นบรรยากาศที่งดงามเปี่ยมมนตร์ขลังของเมืองนี้ ทั้งยังสามารถเพลิดเพลินไปกับงานปรับภูมิทัศน์หลายส่วนของเมือง ได้แก่ มุมพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงประติมากรรมทองเหลืองภาพชีวิตคนท้องถิ่นในสมัยก่อน เช่น กลุ่มสาวน้อยซักผ้า และเด็กจูงควาย เป็นต้น
ที่ภูเขาชิงเฉิงนี้คือบ้านของแพนด้า สัตว์โลกแสนน่ารักของคนรักแพนด้าตัวจริง รวมทั้งเป็นที่ตั้งของศูนย์อนุรักษ์แพนด้า การเดินทางครั้งนี้ยังรวมถึงการเยือนเมืองเก่าที่เป็นเมืองบริวารของเฉิงตูถึงสองเมืองด้วยกัน คือ เจียจึ (Jiezi) เมืองเก่าแก่โบราณพันกว่าปีที่อยู่ในเส้นทางการค้าที่เป็นตำนานอย่างทางสายไหม และตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan) เมืองที่มีระบบชลประทานเก่าแก่มานานเกือบสองพันปี โดยมีโรงแรมสวยริมเชิงเขานามว่า Six Senses Qing Cheng Mountain เป็นที่พักค้างอ้างแรมตลอดเวลา 4 วัน 3 คืน
หากตั้งใจมาเยือนเฉิงตูโดยมีจุดหมายหลักดังที่กล่าวมานี้ คงต้องกล่าวว่าไม่มีที่พักไหนจะเหมาะไปกว่า Six Senses Qing Cheng Mountain ที่มีบรรยากาศรีสอร์ตหรูหราสะดวกสบาย มีฉากหลังเป็นภูเขาชิงเฉิง โดยไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลากับการจราจรที่คับคั่งของตัวเมือง ทั้งยังมีเวลาได้ผ่อนคลายกับ Six Senses Spa และสามารถลิ้มรสอาหารไทยที่ห้อง Sala Thai ซึ่งมีโต๊ะสุดโรแมนติกสำหรับ “เราสอง” บนยอดหลังคาที่พื้นกรุด้วยวัสดุโปร่งใส มองลงไปเห็นเชฟไทยกำลังทำอาหารจากด้านบน
หากมาเที่ยวแถบภูเขาชิงเฉิงแบบน้อยวันและคุณเคยเที่ยวในเฉิงตูมาแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางย้อนกลับในตัวเมืองเฉิงตู ด้วยเหตุผลที่ว่ารถติดพอๆ กับกรุงเทพฯ และจะช่วยให้มีเวลาเดินทางท่องเที่ยวในเมืองโบราณที่เป็นเมืองเล็กเมืองน้อยที่มีเสน่ห์ได้มากขึ้น แต่ถ้าคุณมุ่งมั่นจะสัมผัสประสบการณ์ในเมืองเอกของมณฑล ที่ปัจจุบันเป็นทั้งศูนย์กลางด้านการศึกษา การทหาร การเมือง และเศรษฐกิจ ก็ควรลองหาโอกาสไปเยือนดูสักครั้ง
ถัดจากการเยือนภูเขาชิงเฉิง หากมีเวลามากพอคุณยังสามารถวางแผนเที่ยวเมืองเฉิงตู ที่ปัจจุบันเป็นทั้งศูนย์กลางด้านการศึกษา การทหาร การเมือง และเศรษฐกิจได้ด้วย
ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทาง
Model: Araya A. Hargate
Photographer: Amat Nimitpark
Stylist: Isariya Indra
Hair Stylist: Somporn Tirin
Clothes: PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE: available at G Fl. The EmQuartier Tel. 0-2021-2177, 1st Fl. Central Chidlom Tel. 0-2655-7562, Pop-up Store at 1st Fl. Siam Paragon Tel. 0-2658-0295
Special Thanks: Six Senses Qing Cheng Mountain
เรียบเรียงจาก: “Mount Qing Cheng, Chengdu” เพื่อนเดินทาง ฉบับ 436 เมษายน 2016 เรื่องโดย: เศรษฐพงศ์ เผ่าวัฒนา และบางส่วนจากบทบรรณาธิการโดยกรองกาญจน์ พงศธร