×

สวัสดีฮานอย: แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด และณภัทร เสียงสมบุญ

Traveller's Companion | Traveller's Companion | 28 November 2017

ฮานอย (Hanoi) เมืองหลวงของประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างเวียดนามมีดีให้เราอยากเดินทางไปเยี่ยมเยือน เพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ มากกว่าที่หลายคนคิด เช่นเดียวกับแพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด และณภัทร เสียงสมบุญ ที่ร่วมออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์ที่แตกต่างที่เมืองใหญ่ทางภาคเหนือของเวียดนามแห่งนี้ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ของฮานอยที่ยาวนานกว่า 1,000 ปี ที่ครบรอบไปเมื่อ ค.ศ. 2012 ที่ผ่านมา และในปีฉลองครบรอบ 1,000 ปีนี้ ฮานอยได้สร้างคันกันน้ำประดับโมเสกของถนนใต้สะพานลองเบียน (Long Bien Bridge) ที่ยาวเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร บอกถึงการเป็นเมืองที่เกี่ยวข้องกับสายน้ำ นอกจากนี้ชื่อฮานอยยังมีความหมายว่า ตอนต้นของแม่น้ำ เนื่องจากเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตอนต้นของลุ่มแม่น้ำแดง ทั้งเป็นที่มาที่ว่าเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก คนฮานอยสมัยก่อนจึงมีการเล่นหุ่นกระบอกน้ำเพื่อสร้างความบันเทิง

ในตัวเมืองฮานอยมีทะเลสาบขนาดใหญ่มากอย่างทะเลสาบตะวันตก (West Lake) ที่ถูกแบ่งด้วยถนนที่สร้างขึ้นหลังจากที่โฮจิมินห์ขึ้นเป็นประธานาธิบดี เพื่อการเชื่อมย่านการค้ากับสถานที่ราชการของเมืองให้ติดต่อกันได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องอ้อมแม่น้ำกันให้เมื่อย ในเมืองเดียวกันยังเป็นที่ตั้งของทะเลสาบคืนดาบ หรือโห่ฮว่านเกี๊ยม (Hoan Kiem Lake) ที่มีชื่อเสียง รอบๆ ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นสวนสาธารณะน่าเดินเล่น มีสะพานไม้สีแดงชื่อว่าสะพานแสงอาทิตย์ (Sunbeam Bridge) ที่ข้ามไปวัดเนินหยก ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮานอย โดยอีกด้านมีเกาะเล็กๆ ที่มีสถาปัตยกรรมรูปทรงแปลกชื่อว่าหอคอยเต่า เป็นฉากหลังยอดนิยมในการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของคนฮานอย
 
มาถึงฮานอย จัตุรัสบาดิ่ญ (Ba Dinh Square) ซึ่งมีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ต่อชาวเวียดนามคืออีกหนึ่งสถานที่ต้องไปเยือน ด้วยแวดล้อมไปด้วยอนุสรณ์สถานสําคัญๆ ของชาติ ไม่ว่าจะเป็นสุสานบรรจุร่างโฮจิมินห์หรือลุงโฮของชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้นำในการปลดแอกจากการปกครองระบบอาณานิคมของฝรั่งเศส ในบริเวณเดียวกันยังมีทำเนียบประธานาธิบดีในสมัยอาณานิคมและบ้านลุงโฮให้ได้ใช้เวลาเดินเยี่ยมชมในวันที่ไม่รีบร้อนจนเกินไป หากมีเวลามากหน่อยลองใช้บริการซิโคล่หรือรถสามล้อถีบที่มีที่นั่งโดยสารด้านหน้าส่วนคนขับอยู่ด้านหลังเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม และถ้าคุณชอบใช้เวลาละเลียดชมเมืองไปเรื่อยๆ ฮานอยคือเมืองที่เหมาะกับคุณอย่างแท้จริง

อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ต้องไปเยี่ยมชมคือ ป้อมปราการหลวงทังล็อง (The Imperial Citadel of Thang Long) ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกใน ค.ศ. 2010 สถานที่นี้สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในราชวงศ์ลี้ เพื่อเป็นการประกาศเอกราชของอาณาจักรได๋เวียด (Dai Viet Empire) ทั้งยังเคยเป็นศูนย์กลางอำนาจทั้งการเมืองและวัฒนธรรมมานานกว่าศตวรรษ สำหรับสีเหลืองที่ทาตัวอาคารอาจไม่ใช่สีดั้งเดิมมาแต่โบราณ เพราะสีเหลืองนี้นิยมใช้ในช่วงอาณานิคมื และการใช้สีเดียวกับสถาปัตยกรรมต่างๆ ของเมืองก็ทำให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสถานที่ยอดนิยมของนักเดินทางที่น่าสนใจไม่น้อย ได้แก่ เจดีย์เสาเดียวกลางน้ำที่ขึ้นชื่อเรื่องการขอบุตร ซึ่งชาวเวียดนามนับถืออย่างมาก (One Pillar Pagoda) ทั้งยังน่าศึกษาในแง่งานสถาปัตยกรรม, พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Museum) ที่อยู่ใกล้เจดีย์เสาเดียว สำหรับคนที่สนใจศึกษาประเทศเวียดนามแบบลงลึกมากขึ้น, วิหารวรรณกรรม (Temple of Literature) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ขงจื๊อ และเชิดชูบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาหรือที่เรียกว่าจอหงวนตามระบอบการศึกษาของจีนที่เคยปกครองเวียดนามมาก่อน ไปจนถึงออกไปวิ่งยามเช้าบนถนนสายโรแมนติก หรือเดินเล่นและกินไอศกรีมบนถนนเส้นนี้อย่างที่คนเวียดนามชอบทำ

การชอปปิงในย่านเก่าอย่างบริเวณถนน 36 (The 36 Streets of Hanoi) ยังคงมีเสน่ห์ แม้บางคนอาจไม่อยากได้ของที่ระลึก แต่ก็สามารถเดินชมวิถีชีวิตของคนฮานอยในย่านนี้ได้ ถนนสายนี้สร้างขึ้นเพื่อการค้าแต่โบราณ โดยการแบ่งถนนแต่ละสายสำหรับสินค้าแต่ละชนิด อย่างถนนกระดาษ ถนนทองแดง หรือถนนหนังสือ แต่ปัจจุบันเหลือแต่ชื่อถนนที่คงเดิม ร้านรวงต่างๆ เปลี่ยนมาเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว แต่หากสนใจงานเครื่องปั้นดินเผา ห้ามพลาดบ๊าตจ่าง (Bat Trang) หมู่บ้านทำเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องกระเบื้องเคลือบมาตั้งแต่โบราณ อยู่ห่างจากตัวเมืองฮานอยโดยใช้เวลาขับรถราวครึ่งชั่วโมง 

ฮานอยวันนี้อาจแตกต่างจากเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่นักท่องเที่ยวจะได้ยินเสียงกระดิ่งรถจักรยานดังลั่นท้องถนนในยามเช้าตรู่ เพราะมีเสียงมอเตอร์ไซค์เข้ามาแทนที่ เช่นเดียวกับภาพผู้หญิงสวมชุดอ๊าวหย่ายที่สัญจรไปมาตามถนนก็ดูจะเลือนหายไปตามกาลเวลา เหลือเพียงนักเรียนเท่านั้นที่ยังสวมชุดอ๊าวหย่ายสีขาวไปโรงเรียน แต่เมื่อเทียบกับนครโฮจิมินห์หรือไซ่ง่อนที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเวียดนามและเป็นเมืองเศรษฐกิจแล้ว ฮานอยที่เป็นศูนย์กลางการปกครองยังคงดำเนินไปอย่างเนิบๆ ไม่หวือหวาแม้จะมีการเปลี่ยนแปลง และถึงแม้จะมีไลฟ์สไตล์แบบตะวันตกขยายเข้ามาเรื่อยๆ แต่ยังคงเสน่ห์ในแบบฮานอยไว้ไม่เสื่อมคลาย 

ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทาง
Models:
Naphat Siangsomboon & Tanchanok Good
Photographer: Amat Nimitpark
Stylist: Akaphol Ruthaiyanont

Makeup Artist: Sukhon Srimarattanakul
Hair Stylist: Noppasit Cheerakulltananan
Clothes and Accessories: SHAKA: available at 3rd Fl. Siam Center Tel. 0-2658-1109 / b.a.e.bkk: available on IG: b.a.e.bkk / PATTRIC BOYLE @GIN & MILK: available at 3rd Fl. Siam Center / CAMPER: available at 1st Fl. CentralWorld / FIFTH_SEASON: available at 3rd Fl. Siam Square One Tel. 08-1736-7436 / BAKING SODA: available at 3rd Fl. Siam Center / RAVIPA JEWELRY: available on IG: ravipajewelry Tel. 08-5599-7195 / AKE AKE: available at 1st Fl. Siam Square One Tel. 0-2115-1410

ขอบคุณ: Nok Air: Call Center 1318 / Sofitel Plaza Hanoi: 1 Thanh Nien Road, Ba Dinh District, Hanoi Tel. +84 4 3823 8888 

 

เรียบเรียงจาก: “Hanoi...Vietnam” เพื่อนเดินทาง ฉบับ 434 กุมภาพันธ์ 2016  เรื่องโดย: เศรษฐพงศ์ เผ่าวัฒนา และบางส่วนจากบทบรรณาธิการโดยกรองกาญจน์ พงศธร