×

เสน่ห์บาหลี: วรัทยา นิลคูหา และเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์

Traveller's Companion | Traveller's Companion | 28 November 2017

ไม่มีใครจะรู้จักเสน่ห์ของบาหลี (Bali) ได้ดีเท่ากับการได้ไปเยือนบาหลีด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับวรัทยา นิลคูหา และเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ สองนักแสดงมากความสามารถที่เดินทางไปเยือนเกาะมากด้วยของเสน่ห์ของอินโดนีเซียแห่งนี้ เพื่อยืนยันว่าไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย จนถึงวันนี้บาหลีคือเกาะในฝันของนักเดินทางอย่างแท้จริง ทั้งท้องทะเลที่มีทิวทัศน์สบายตา ศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม น้ำใสใจจริงของผู้คนที่นี่ ผนวกเข้ากับพลังความเชื่อ ความศรัทธาที่ยึดเหนี่ยวให้ผู้คนมีความเคารพต่อธรรมชาติ
แม้เดนปาซาร์จะเป็นเมืองที่ไม่มีชายหาด แต่ก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และมีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งรวมของรีสอร์ตและแหล่งท่องเที่ยวที่มีสีสันยามราตรี ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์บาหลี (Bali Museum) ที่ย่นย่อประวัติศาสตร์และเก็บรักษาของสวยงามชิ้นสำคัญเอาไว้ครบถ้วนสำหรับผู้ชอบเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเลือกเริ่มต้นพักที่เดนปาซาร์ ที่เสมือนเป็นศูนย์กลางของทั้งจิมบารันและนูซาดัว หรือแล้วแต่จะเลือกออกแบบการจองที่พักและการเดินทาง

ที่จิมบารัน ที่นี่มีสีสันแบบบาหลีให้เห็นอย่างเต็มเปี่ยม เพราะเป็นย่านที่อยู่อาศัย มีบ้านแบบดั้งเดิมของบาหลี และต้องขอย้อนกลับไปในอดีตกันสักนิดว่า การหลั่งไหลเข้ามาของนักเดินทางสะพายเป้ในยุคเซเวนตีส์นั่นเองที่ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นย่านที่ถูกพูดถึง โดยเฉพาะหาดทรายที่คูตา (Kuta Beach) ความยาวกว่า 3 กิโลเมตร ที่นักท่องเที่ยวอยากเก็บไว้เป็นที่พักสำหรับวิถีเที่ยวแบบประหยัด เพราะมีที่พักริมทะเลมากมายเพียงคืนละ 1 ดอลลาร์เท่านั้น แต่ก็ด้วยเสียงร่ำลือที่บอกต่อถึงความสวยงาม ทำให้หาดคูตาในวันนี้เป็นที่ตั้งของโรงแรมหรู ทิ้งเรื่องบังกะโลคืนละ 1 ดอลลาร์ให้เป็นประวัติศาสตร์ไว้เล่าสู่กันฟัง นอกจากนี้ใครชอบเล่นเซิร์ฟที่นี่ก็มีจุดที่นักเล่นกระดานโต้คลื่นชื่นชอบอย่างคูตารีฟ (Kuta Reef)

ถ้าจะให้ดีควรมารอชมพระอาทิตย์ตกที่จิมบารันในช่วงยามบ่ายเกือบเย็น หรือจะวางแผนไปเที่ยวอูลูวาตู (Pura Luhur Uluwatu) ก่อนช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก จากนั้นจึงค่อยแวะมารับประทานอาหารริมทะเล และที่เป็นอีกหนึ่งสิ่งห้ามพลาดสำหรับข้อมูลน่ารู้ของอูลูวาตูคือ สถานที่นี้เป็นศาสนสถานสำคัญที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยที่สุดของเกาะ มีหน้าผาหินที่สวยงาม และมีการสร้างเมรุ 3 ชั้นขนาดใหญ่ที่บริเวณปลายหน้าผา จนกลายเป็นภาพที่คุ้นตาเหมือนในโปสต์การ์ดที่ขายในร้านของที่ระลึก 

เมื่อพูดถึงการชมพระอาทิตย์ตก วัดทานาห์ลอต (Tanah Lot Temple) นั้นงดงามเสมอแม้เวลาพระอาทิตย์ตกจะเป็นไฮไลต์ที่สุด ด้วยที่ตั้งของวัดที่อยู่บนโขดหินใหญ่ริมทะเลทำให้ดูสวยสง่าน่าศรัทธา

พูดได้ว่านูซาดัวเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของชายหาด และเป็นโซนที่พักที่หรูขึ้น ทางรัฐบาลตั้งใจให้เป็นแหล่งรวมรีสอร์ตหรูชั้นยอด โดยเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ ค.ศ. 1983 รวมเอาโรงแรมหรือรีสอร์ตเครือนานาชาติมาไว้ด้วยกัน รวมถึงคลับเมดบาหลีที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดหมายของคนที่ต้องการมาพักผ่อนและรักกิจกรรมกลางแจ้งไปด้วยในตัว ที่ตั้งของนูซาดัวอยู่บริเวณที่ราบเชิงภูเขาไฟบาตูร์ (Batur) ทำให้หาดทรายของที่นี่มีลักษณะเฉพาะตัว บางช่วงเป็นทราย และบางช่วงเป็นหินภูเขาไฟ

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาบาหลีด้วยเครื่องบินจะต้องลงที่สนามบินเดนปาซาร์ หรืองูราห์ไร (Ngurah Rai International Airport) ที่ปัจจุบันได้เปิดใช้อาคารสนามบินใหม่ที่ทันสมัย และตกแต่งด้วยศิลปะแบบบาหลีอย่างลงตัว เหนือขึ้นไปจากสนามบินคือเมืองเดนปาซาร์ (Denpasar) ลงมาทางใต้เป็นจิมบารัน (Jimbaran) และหากไปทางด้านตะวันออกเฉียงใต้จะถึงนูซาดัว (Nusa Dua) ทั้งหมดเป็นสถานที่ที่ต้องไปให้ถึงเมื่อมาเยือนบาหลี

หากชอบเที่ยววัด สถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ วัดเบซากีห์ (Besakih Temple) วัดหลวงที่สำคัญที่สุดในเกาะบาหลี ตั้งอยู่ที่เชิงภูเขาไฟกุนุงอากุง (Gunung Agung) หากมีเวลาอาจหาโอกาสเยี่ยมชมวัดปุราทามันอายุน (Pura Taman Ayun) ที่สร้างขึ้นราว ค.ศ. 1740 และเป็น 1 ใน 6 วัดที่สวยงามของบาหลีที่ออกแบบตามหลักความเชื่อเรื่องเกษียรสมุทร มีเจดีย์ 11 ชั้นที่สร้างถวายเทพเจ้าแห่งภูเขาไฟ 3 ลูกของบาหลีด้วยกัน และเพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อที่มีมายาวนาน อาจวางแผนเดินทางไปน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ปุราตีร์ตาเอมปูล (Pura Tirta Empul) ในหมู่บ้านทัมปักสิริง (Tampak Siring) สถานที่ที่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต้องหาโอกาสมาอาบน้ำเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล

ไปบาหลีไม่มีใครไม่ไปอูบุด (Ubud) สถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดหมายของนักเดินทางจากยุโรป ทั้งยังมีบรรดาศิลปิน คีตกวี และนักคิดนักเขียนมาเยือนมากมาย พวกเขาทำให้โลกรู้จักกับบาหลีในรูปแบบของดินแดนที่ยังมีความขลังลึกลับซ่อนอยู่ท่ามกลางสถาปัตยกรรมและศิลปะที่มีเอกลักษณ์ ในเขตอูบุดยังมีถ้ำช้าง (Goa Gajah) ที่ค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวดัตช์ใน ค.ศ. 1923 มีการก่อสร้างวัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ โดยน้ำพุจะออกมาจากรูปสลักหญิงสาวหกนาง ที่ชาวบาหลีเชื่อว่าใครอยากมีลูก ลองมาดื่มน้ำที่นี่จะมีลูกสมปรารถนา อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมของการไปเยือนอูบุดคือการทำนาขั้นบันได ที่สามารถไปชมได้ที่เตกัลลาลัง (Tegallalang) หมู่บ้านที่อยู่ห่างจากอูบุดไปทางเหนือราวๆ 9 กิโลเมตร มีจุดชมนาข้าวที่เป็นร้านอาหาร บางร้านมีกาแฟขี้ชะมดขาย แต่ถ้าไม่ต้องการใช้บริการร้านเหล่านี้ต้องเสียค่าเข้าชม ส่วนใครอยากจะหากาแฟดีๆ ที่อูบุด ขอแนะนำร้าน Seniman Coffee Studio บนถนน Sriwedari ที่เน้นคุณภาพของกาแฟที่คั่วเอง แต่ถึงอย่างไรโดยเฉพาะขาชอปก็ไม่มีอะไรสนุกเท่ากับการไปชอปปิงที่ตลาดอูบุด (Pasar Ubud หรือ Ubud Market) ที่สามารถเลือกซื้อของฝากแบบบาหลีทั้งงานจักสาน ของแต่งบ้าน ผ้าบาติก โสร่ง ที่ต่อรองราคาได้จนพอใจกันทั้งคนขายและคนซื้อ

แม้ครั้งหนึ่งจะเคยตกเป็นอาณานิคมของประเทศตะวันตก แต่ความศรัทธาในศาสนาและความเลื่อมใสในประเพณีเก่าแก่ของบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมายาวนานทำให้เกาะบาหลียังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นเสน่ห์ เรายังได้เห็นผู้หญิงชาวบาหลีแต่งกายสวยงาม เทินศีรษะด้วยสิ่งของที่จะนำไปวัด กระทงสำหรับการบูชาที่คนบาหลีจะวางไว้ตามสถานที่ที่เขาเชื่อว่ามีเทพเจ้าอยู่อย่างประตูทางเข้าออกและหน้าอาคารบ้านเรือนบาหลี แม้ความเจริญทางวัตถุจะมาเคาะประตูเยี่ยมเยือน

ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทาง
Models:
Warattaya Nilkuha, Janie Thienphosuvan
Photographer: Amat Nimitpark
Stylist: Teera Taithong                                            
Makeup Artist: Tasanapong Sawatdipong                                     
Hair Stylist: Rachda Pongpuang-ngam                                                           
Clothes: PLEATS PLEASE ISSEY MIYAKE: available at Ground Fl. The EmQuartier Tel. 0-2021-2177, 1st Fl. Siam Paragon Popup Store Tel. 0-2658-0295, 1st Fl. Central Chidlom Tel. 0-2655-7562
Special Thanks: Thai Airways International: www.thaiairways.com / Club Med Bali: Tel. 0-2001-8578