×

บินนก นั่งรถม้า แอ่วลำปาง: ปริญ สุภารัตน์ และราณี แคมเปน

Traveller's Companion | Traveller's Companion | 12 January 2018

ประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,300 ปีของเมืองลำปางหรือเขลางค์นคร เมืองหลวงคู่แฝดกับอาณาจักรหริภุญชัย หรือจังหวัดลำพูนในปัจจุบันที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต เป็นอีกหนึ่งจังหวัดในภาคเหนือที่เป็นแหล่งอารยธรรมล้านนาอันทรงคุณค่า เปี่ยมไปด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ วัดวาอาราม และสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์มาก สิ่งเหล่านี้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเยือนพร้อมนำความประทับใจระหว่างการเดินทางมาเล่าสู่กันฟัง เช่นเดียวกับหมาก-ปริญ สุภารัตน์ และเบลล่า-ราณี แคมเปน ที่ร่วมบินไปพร้อมกันกับทีมงานเพื่อนเดินทางด้วยสายการบินนกแอร์ เพื่อมุ่งหน้าไปเยือนจังหวัดเล็กๆ ที่มีเสน่ห์มาก ก่อนนำเรื่องราวช่วงเวลาที่พวกเขาได้สัมผัสเสน่ห์ลำปางมาฝากกัน

ลำปางแวดล้อมไปด้วยเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ สุโขทัย ลำพูน และตาก ในอดีตลำปางเคยเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในล้านนา เป็นจุดศูนย์รวมทางด้านศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น วัดวาอารามเก่าแก่สวยงามแบบพม่า ซึ่งเข้ามามีอิทธิพลในสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ตามลำดับ และเนื่องจากชาวพม่าได้เข้ามาผูกขาดการทำไม้ในภาคเหนือ และมีคติอยู่ว่า เมื่อรวยแล้วต้องสร้างวัดหรือบูรณะวัดเก่าเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้รุกขเทวดาที่อาศัยอยู่ในไม้ใหญ่ที่ถูกโค่น เป็นเหตุผลที่ไขข้อข้องใจให้นักท่องเที่ยวได้ดีที่สุดว่า ทำไมจึงมีวัดที่สวยงามจำนวนไม่น้อยให้ได้เที่ยวชม 

หนึ่งในวัดสำคัญที่ต้องไปเยี่ยมชมคือ วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเก่าแก่ของคนลำปางที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย เมื่อเข้าสู่ด้านในจะพบกับวิหารหลวง วิหารขนาดใหญ่ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2019 ภายในมีซุ้มปราสาททองเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง พระประธานของวิหารแห่งนี้ ส่วนบริเวณด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทันใจ ที่ชาวบ้านนิยมขอพรกัน ถัดจากวิหารหลวงคือองค์พระธาตุลำปางหลวง ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ภายในองค์พระเจดีย์ยังเป็นที่บรรจุพระเกศาและพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่มาของเงาพระธาตุกลับหัวที่อยู่ด้านในมณฑปพระบาท อีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ Unseen Thailand ที่มีข้อยกเว้นว่า ห้ามผู้หญิงเข้า ทว่าข้อห้ามนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการไปเยือนวัดพระธาตุลำปางหลวงแต่อย่างใด

จากนั้นไม่ควรพลาดเดินทางไปยังวัดปงสนุก วัดที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองแรกของลำปาง ภายในแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ วัดปงสนุกเหนือ และวัดปงสนุกใต้ ภายในวัดประกอบด้วยพระเจดีย์ศรีจอมไคลและวิหารพระนอน สำหรับไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือ วิหารพระเจ้าพันองค์ สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ผสานงานจิตรกรรมและสถาปัตยกรรมระหว่างไทย จีน พม่าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนงดงาม วิหารแห่งนี้ยังได้รับการรักษาให้คงสภาพเดิมไว้ ทำให้ได้รับรางวัล Award of Merit ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตามโครงการ 2008 UNESCO Asia-Pacific Heritage Awards for Culture Heritage Conservation จากองค์การ UNESCO จึงนับได้ว่าเป็นอีกวัดที่ไม่ควรพลาดชม

หลายคนอาจไม่ทราบว่าวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยก็อยู่ที่จังหวัดลำปางเช่นเดียวกัน โดยเป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดศรีชุม ซึ่งหากพูดถึงประวัติความเป็นมาต้องย้อนกลับไปในช่วงที่เมืองลำปางเคยตกเป็นเมืองขึ้นของพม่านับสองร้อยปีในสมัยพระเจ้าบุเรงนอง ที่ทำให้ได้เห็นอิทธิพลด้านศิลปะของพม่าอย่างชัดเจน วัดแห่งนี้สร้างโดยคหบดีชาวพม่า คำว่า “ศรี” นั้นมาจากต้นศรีมหาโพธิ์จำนวนมากที่ล้อมรอบวัดนั่นเอง ด้วยความเก่าแก่และทรงคุณค่าทำให้วัดศรีชุมได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2524 ก่อนถูกเพลิงไหม้ทั้งหลังใน พ.ศ. 2535 ที่เห็นในปัจจุบันคือวิหารที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่แล้ว คงเหลือเพียงไม้แกะสลักบริเวณซุ้มประตูทางขึ้นวิหารที่ยังเป็นของเดิม และยังมีพระโบราณซึ่งเป็นศิลปะพม่าที่เก็บรักษาอย่างดีอยู่ภายในหอแห่งนี้ให้ได้ชม 

ลำปางแวดล้อมไปด้วยเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ สุโขทัย ลำพูน และตาก ในอดีตลำปางเคยเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในล้านนา เป็นจุดศูนย์รวมทางด้านศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น วัดวาอารามเก่าแก่สวยงามแบบพม่า ซึ่งเข้ามามีอิทธิพลในสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ตามลำดับ และเนื่องจากชาวพม่าได้เข้ามาผูกขาดการทำไม้ในภาคเหนือ และมีคติอยู่ว่า เมื่อรวยแล้วต้องสร้างวัดหรือบูรณะวัดเก่าเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้รุกขเทวดาที่อาศัยอยู่ในไม้ใหญ่ที่ถูกโค่น เป็นเหตุผลที่ไขข้อข้องใจให้นักท่องเที่ยวได้ดีที่สุดว่า ทำไมจึงมีวัดที่สวยงามจำนวนไม่น้อยให้ได้เที่ยวชม 

เมืองลำปางยังมีวัดที่มีชื่อเสียงและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์น่าไปเยือนอีกมาก ได้แก่ วัดไหล่หินหลวง ซึ่งเป็นวัดต้นแบบของวัดพระธาตุลำปางหลวง ถัดมาคือวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดเก่าแก่ที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกต และวัดพระธาตุเสด็จ โบราณสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นต้น นอกจากวัดวาอารามที่สร้างจากไม้แล้ว ภายในตัวเมืองลำปางยังมี “บ้านเสานัก” (ภาษาเหนือแปลว่า มีเสามาก) บ้านไม้โบราณที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง และยังคงความงดงามมาจนถึงปัจจุบันให้เข้าชม ปัจจุบันบ้านหลังนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ พร้อมจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ ดูแลโดยลูกหลานในครอบครัว ตั้งอยู่ที่เลขที่ 6 ถนนราษฎร์วัฒนา ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

ที่ลำปางยังมี “กาดกองต้า” (ในภาษาเหนือหมายถึง ตรอกท่าน้ำ) ตลาดโบราณศูนย์กลางทางการค้าในอดีตที่นักท่องเที่ยวต้องไปให้ถึง ซึ่งหากย้อนไปในอดีตสินค้าที่ส่งมาทางเรือแล้วต้องส่งไปยังเมืองทางตอนเหนือด้วยการขนส่งทางบกจะต้องผ่านเส้นทางนี้ก่อนเป็นลำดับแรก ย่านนี้จึงคับคั่งไปด้วยพ่อค้าชาวอังกฤษ ชาวพม่า และชาวจีนที่มีมากที่สุด จนกลายเป็นที่มาอีกหนึ่งชื่อของกาดกองต้า นั่นคือ “ตลาดจีน” ที่มีมนตร์เสน่ห์ด้วยอาคารโบราณเหยียบร้อยปี รูปแบบสถาปัตยกรรมมีทั้งเรือนไทยภาคกลาง เรือนล้านนา เรือนพม่า เรือนแบบจีน และเรือนขนมปังขิงแบบฝรั่งเศส ที่เรียงรายให้เห็นไปตลอดถนนทั้งสาย ปัจจุบันถนนเส้นนี้ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ถนนคนเดินทุกคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์ ในช่วงเวลาประมาณ 18.00-22.00 น. สร้างความคึกคักให้กับถนนทั้งสาย เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้อร่อยกับอาหารเหนือที่หาชิมยากและหลากหลายเมนูขนมไทย ทั้งยังสามารถซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับไป 

ส่วนช่วงกลางวันไม่ควรพลาดอิ่มอร่อยที่ครัวมุกดา ร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังที่ใครๆ ก็บอกว่าห้ามพลาด ต่อด้วยแวะซื้อของฝากของใช้ที่อินทราเอาท์เลท แหล่งเครื่องเซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในลำปาง หรือถ้ามีเวลามากหน่อย พูดได้ว่าไม่บ่อยนักที่คุณจะมีโอกาสใช้บริการรถม้าที่สามารถพาย้อนอดีตกลับไปได้ถึง 80 ปี โดยพาเที่ยวลัดเลาะเลียบแม่น้ำวัง และชมเมืองลำปางให้สบายตาสบายใจ

เมืองลำปางไม่ได้มีแค่มีวัดที่มีชื่อเสียงและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์น่าไปเยือนจำนวนมาก แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างตลาดโบราณ บ้านเก่า โรงงานเซรามิก รวมไปถึงร้านอาหารอร่อยประจำท้องถิ่นที่น่าลองถ้ามีโอกาสไปเยือน

รถม้า อีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองลำปางที่ทำให้เมืองนี้ถูกขนานนามว่าเป็น "เมืองรถม้า"

เมื่อในอดีตลำปางเคยเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในล้านนา เป็นจุดศูนย์รวมด้านศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น วัดวาอารามเก่าแก่สวยงามแบบพม่าที่คุ้มค่าการไปเยือน

ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทาง 
Models: Ranee Campen & Prin Suparat
Photographer: Amat Nimitpark

Photographer’s Assistant: Akkapon Kumpusan
Stylist: Anak Anan
Makeup Artist: Sukhon Srimarattanakul
Hair Stylist: Phurinutthasut Surasen
Clothes: DVF: available at 1st Fl. Siam Paragon Tel. 0-2129-4791, 1st Fl. Central Chidlom Tel. 0-2252-4170 / GOOD MIXER: available at 3rd Fl. Siam Center Tel. 0-2658-1119 / 27 FRIDAY NOV: available at 3rd Fl. Siam Center Tel. 02-658-1703 / WOLFKIND: available at 3rd Fl. Siam Center Tel. 0-2658-1066 / KANAPOT AUNSORN: available on IG: kanapot Tel. 09-5739-8938 / NICHA: available at 1st Fl. Siam Paragon Tel. 09-2454-5454 / PATTRIC BOYLE: available at 2nd Fl. Siam Paragon 
Special Thanks: Nok Air: Call Center 1318 

เรียบเรียงจาก: “บินนก นั่งรถม้า แอ่วลำปาง” เพื่อนเดินทาง ฉบับ 422 กุมภาพันธ์ 2015 เรื่องโดย: เศรษฐพงศ์ เผ่าวัฒนา และบางส่วนจากบทบรรณาธิการโดยกรองกาญจน์ พงศธร